ดวงประเทียบ

 

ดวงประเทียบ องค์หญิงเหวินเฉิง
28 ส.ค. 2559

 

องค์หญิงเหวินเฉิง เป็นเชื้อพระวงศ์คนหนึ่งที่ออกนอกด่านไปอภิเษกเชื่อมสัมพันธไมตรี ซึ่งน่าจะมีความทุกข์ระทมที่สุดอย่างองค์หญิงอื่นๆ ที่ต้องออกนอกด่านไปทำหน้าที่ “ปลูกญาติ” เพื่อระงับสงคราม แต่เมื่อศึกษาเรื่องราวขององค์หญิงเหวินเฉิงแล้ว อาจต้องเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ เพราะกลายเป็นว่า ในบรรดาองค์หญิงที่ต้องไปแต่งงานต่างแดนนั้น นับว่าองค์หญิงโชคดีที่สุด ทั้งนี้เป็นไปด้วยเหตุผลที่ประกอบกันสองประการคือ ได้พระสวามีที่ดี และการปฏิบัติตนขององค์หญิงเหวินเฉิงเองที่ เป็นแบบอย่างให้กับองค์หญิงทั้งหลายที่ต้องอภิเษกต่างแดนเพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรี ในเวลาต่อมา
 
หลายคนอ่านเรื่องเหวินเฉิงแล้วไม่แปลก เพราะปัจจุบันมีเหวินเฉิงไปแต่งงานต่างแดนเต็มไปหมด ไม่ต้องห่วง ดวงชะตาของเหวินเฉิงย่อมแตกต่างจากเราๆ ท่านๆ อย่างแน่นอน เรามาเรียนรู้เรื่องราวขององค์หญิงดีกว่า เผื่อจะมีอะไรคล้ายกันมั่ง
 
องค์หญิงมีชีวิตอยู่ในสมัยราชวงศ์ถัง ตามประวัติศาสตร์บอกว่าทรงประสูติในราชตระกูลหลี่แห่งราชวงศ์ถัง และเป็นพระราชธิดาบุญธรรมของพระเจ้าถังไถ่จงกับพระนางจ่างซุนฮองเฮา จากการศึกษาธรรมเนียมในราชวงศ์ของจีนทุกยุค สามารถสรุปได้ว่า “การแต่งงานเชื่อมไมตรี” เป็นประเพณีในการเชื่อมความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนกับชนเผ่าต่างๆ มีคุณประโยชน์อย่างใหญ่หลวง ต่อการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างเผ่า เป็นการกระชับไมตรีและความสามัคคีของทั้งสองฝ่าย แต่สำหรับสตรีผู้ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับเจ้าต่างแคว้นแล้ว นับว่าโชคร้ายทีเดียว ดังนั้นจึงไม่นิยมส่งองค์หญิงที่เป็นพระราชธิดาผู้สูงศักดิ์ไป แต่มักจะยกย่องหรือแต่งตั้งนางกำนัลที่รูปงามบ้าง หรือสนมที่เข้าวังมานานยังไม่เคยพบฮ่องเต้ หรือแม้กระทั่งเชื้อพระวงศ์ที่ห่างไกลอยู่ท้ายปลายแถวแทบไม่มีใครนึกถึง มาแต่งตั้งเป็นองค์หญิงที่สูงศักดิ์
 
สำหรับเรื่องราวขององค์หญิงเหวินเฉิงก็เช่นกัน เป็นพระญาติที่ห่างไกล สายทางมารดาของพระเจ้าถังไท่จง ที่แต่งกับขุนนางธรรมดา จัดเป็นเชื้อพระวงศ์ที่ห่างไกล ซึ่งราชฑูตของธุฝานหรือทิเบตในปัจจุบัน ได้เห็นความงดงามและความฉลาดเจ้าปัญญาขององค์หญิง ยามที่เสด็จมาเข้าเฝ้าในวันสำคัญๆ ของการรวมญาติในเทศกาลต่างๆ อยู่หลายครั้ง ทั้งยังเป็นองค์หญิงที่พระเจ้าถังไท่จงทรงโปรดปรานที่สุด
 
เล่ากันว่าองค์หญิงเมื่อเห็นพระเจ้าถังไท่จงมีสุขภาพที่ไม่แข็งแรง มักปวดพระนาภีอยู่เสมอ คือความตึงเครียดทำให้ทรงเป็นโรคกระเพาะนั่นเอง องค์หญิงจึงทรงเสนอแนะให้สร้างสวน ทะเลสาบ จำลองภูเขา ทั้งทำศาลากลางน้ำ ให้พระเจ้าถังไท่จงได้ทรงพักผ่อนกับทิวทัศน์จำลองเพื่อความสบายพระทัย ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของ สวนน้ำ ทะเลสาบ เก๋งจีนในพระราชวัง หรือบริเวณที่เสด็จประพาสต่างๆ ของฮ่องเต้ทุกรัชสมัยในเวลาต่อมา ดังนั้นองค์หญิงเหวินเฉิงจึงเป็นผู้ที่เข้านอกออกใน และสามารถเข้าเฝ้าพระเจ้าถังไท่จงและจางซุ่นฮองเฮาได้ทุกเวลา เป็นที่ประจักษ์แก่คนทั้งหลาย รวมทั้งราชฑูตจากธุฝานจึงจับตามองเป็นพิเศษ
 
 
ดวงประเทียบ, โหราศาสตร์ไทย, ษณอนงค์, อาจารย์แอน, ฮวงจุ้ย, เหวินเฉิง
 
 
เราจะวางลัคนาขององค์หญิงที่ราศีสิงห์ มีดาว ๓ ๘ กุมลัคนา และดาว ๑ ร่วม ๐ ที่ราศีกรกฏภพวินาศ มีดาว ๒ นำหน้าลัคนา ดาว ๔ และ ๖ อยู่เรือนเกษตรที่ราศีเมถุนและราศีพฤษภ การวางดาว ๔ ที่เมถุนแทนที่จะวางไว้ที่ราศีกันย์นั้นมีเหตุที่พึงรู้ เพราะดาว ๔ ต้องอยู่ใกล้ดาว ๑ นั่นแน่นอน ทั้งดาว ๔ ราศีเมถุนมีความหมายถึงการเดินทางไกล เป็นดาว ๔ แห่งการฑูตด้วยและเป็นดาวแห่งปัญญา ส่วนดาว ๔ ที่ราศีกันย์คือดาวแห่งการประพันธ์ และความสามารถในเชิงพาณิชย์ รวมถึงการเจรจา
 
ส่วนดาว ๖ เป็นเกษตรราศีพฤษภหมายถึงโภคทรัพย์ ความรักแบบคลุมถุงชน หรือความรักที่ผู้ใหญ่รับรู้ อยู่ในกรอบบังคับ ส่วนดาว ๖ ที่อยู่ราศีตุลย์คือการเงินที่ได้รับอย่างสม่ำเสมอไม่ขาดแคลน และหมายถึงคู่ครองเนื้อคู่ และคู่สัญญา รวมถึงคู่แข่ง และดาว ๖ ภพกัมมะ ยังมีความหมายถึงการแต่งงานแบบคลุมถุงชนอีกด้วย ไหนๆ ก็วางดวงประเทียบก็วางให้จบๆ แล้วค่อยอธิบาย จะได้ไม่งง
 
เราวางดาว ๕ อยู่กลางฟ้าภพศุภะเพราะคุณูปการที่องค์หญิงได้ให้กับชาวทิเบตเป็นเรื่องศาสนา ทั้งดาว ๕ ราชาโชค คือ ความหมายตรงๆ โชคจากราชา คือได้เป็นพระราชธิดาบุญธรรมและเป็นชายาของอ๋องธุฝาน หรือนัยหนึ่งคือทิเบต
ดาว ๗ เล็งลัคน์ที่ราศีกุมภ์ และดาว ๙ อยู่ภพมรณะที่ราศีมีนเพราะจะอยู่ในเกณฑ์ของดาว ๓ ที่กุมดาว ๘ ด้วย เท่ากับดาว ๙ ส่งเสริมให้ลัคนาหรือเจ้าตัวต้องพลัดพรากจากถิ่นกำเนิดไปยิ่งใหญ่ในต่างแดน เพราะดาว ๓ มาจากเรือนพันธุ และดาว ๘ มาจากเรือนปัตนิ ทั้งครองราศีพฤษภภพกัมมะ คือความชัดเจนของการจากบ้านเพื่อเรือนปัตนิ คือการแต่งงานโดยหน้าที่ และดาว ๑ ตนุลัคน์อยู่ภพวินาศ ก็มีความหมายถึงการย้ายถิ่นฐาน และดาว ๐ ร่วมแสดงถึงดินแดนแสนไกลแปลกถิ่น หมายถึงต่างชาติต่างภาษา
 
มาเรียนรู้ประวัติศาสตร์ที่หลายคนยังไม่รู้จักดีกว่า เพราะอาจจะไม่ใช่คอหนังจีน และไม่ชอบประวัติศาสตร์ แต่เรียนรู้แล้วเวลาไปเที่ยวทิเบตจะสนุก เพราะรู้จักเรื่องราวขององค์หญิงแล้ว จะได้ไม่สับสนกับหวังเจาจวินที่ไปแต่งต่างแดนเหมือนกัน แต่ดังกว่า
 
การเมืองในสมัยนั้น การเชื่อมสัมพันธไมตรีไม่เพียงแต่ระงับสงครามระหว่างจีน แต่เป็นการถ่วงดุลระหว่างชนเผ่าต่างๆด้วย ราชฑูตของธุฝานเล็งเห็นความมีอำนาจมากขึ้นทุกวันของชนเผ่าทูเจี๋ย ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อประเทศของตน ประกอบกับเข้าใจในธรรมเนียมของชาววังดีว่า หากจะทูลขอพระราชธิดาแล้วคงเป็นการยาก จึงวาดรูปองค์หญิงเหวินเฉิงซึ่งถึงอย่างไรก็เป็นพระญาติวงศ์ที่พระเจ้าถังไท้จงโปรดปรานที่สุด ส่งไปให้กษัตริย์หนุ่มของตน ซงจ้านกานปู้ และเสนอแนะให้สู่ขอองค์หญิงไปอภิเษก แม้ว่าซงจ้านกานปู้จะมีพระชายาซึ่งเป็นชาวเนปาลอยู่แล้วก็ตาม
 
เนื้อคู่มีตำหนิ แต่งกับพ่อหม้ายก็ดาว ๗ นี่แหละ และยังมีความหมายว่า แต่งกับต่างชาติต่างภาษาด้วยก็ได้ ซงจ้านกานปู้เป็นอ๋องหนุ่ม อายุประมาณยี่สิบกว่าๆ อุปนิสัย องอาจกล้าหาญ ฉลาดเฉลียว มองรูปการเมืองออกทันที ทั้งเห็นรูปขององค์หญิงที่มีรูปโฉมงดงาม เรียบร้อย และท่วงทีสง่างาม และคุณสมบัติที่ฉลาดเฉียบแหลมขององค์หญิงที่ราชฑูตบรรยายมา ก็รีบส่งฑูตเดินทางม้าเร็วมายังจีนเพื่อทูลขอองค์หญิงพร้อมทั้งส่งภาพที่ตนวาดขึ้นใหม่เลียนแบบภาพที่ราชฑูตวาดให้ดูประณีตงดงามขึ้น เป็นการให้ความสำคัญและยกย่องให้เกียรติองค์หญิง
 
นี่เป็นอิทธิพลของดาว ๖ กลางฟ้าที่อยู่ในเกณฑ์กับลัคนาและภพปัตนิ ในลักษณะเป็นเจ็ด เป็นสิบกับลัคนา มีความหมายเกี่ยวพันกับดาวปัตนิ และการเล็งของดาว ๓ กับ ๗ และ ๗ กับ ๘ หมายถึงการเมืองด้วย
 
ประวัติศาสตร์บันทึกไว้ว่า เป็นที่น่าเสียดายที่การเจรจาทูลขออภิเษกครั้งนั้นไม่เป็นผลสำเร็จ เพราะเหตุผลทางการเมืองหนึ่ง และเหตุผลจากภายในราชสำนักเอง ก็คือรบกันก่อน นั่นก็เพราะดาว ๓ เล็ง ๗ นี่แหละ
 
ด้วยเหตุผลทางการเมือง อ๋องถูกู่หุนแห่งเผ่าทูเจี๋ยซึ่งเป็นเผ่าพันธุ์เตอร์กและเหตุผลส่วนตัวที่มองเห็นทั้งความงามและความเฉลียวฉลาดขององค์หญิง และประโยชน์ของการเชื่อมสัมพันธไมตรีด้วยการอภิเษกเช่นกัน จึงพยายามขัดขวาง ด้วยการทูลยุยงและใส่ร้ายว่าอ๋องแห่งธุฝาน ป่าเถื่อนดุร้าย และมีแผนการที่มักใหญ่ใฝ่สูงต้องการความเป็นใหญ่ในแผ่นดินจงหยวน โดยมีทั้งหลักฐานที่ตนทำขึ้นถวายให้พระเจ้าถังไท่จงพิจารณา จนทำให้พระเจ้าถังไท้จงทรงขัดเคืองและทรงยับยั้งการแต่งงานไว้ก่อน
 
องค์หญิงก็ไม่อยากผูกพันหมั้นหมายทางการเมือง ทั้งกลัวการเดินทางไปสู่ดินแดนที่รู้กันว่าป่าเถื่อน ดังที่องค์หญิงทั้งหลายมีความทุกข์กันมาแล้วนับแต่โบราณกาลมา จึงทรงร่ำไห้ร้องของให้ฮองเฮาช่วยคัดค้านการแต่งงานครั้งนี้ 
 
เมื่อมีเหตุผลที่ประจวบเหมาะทั้งการบ้านและการเมืองอย่างนี้ พระเจ้าถังไท่จงจึงทรงปฏิเสธทันที
 
เมื่อข่าวการปฏิเสธการแต่งงานโบยบินสู่อ๋องหนุ่มแห่งธุฝาน ซงจ้านกานปู้มุ่งมั่นจะขอพระราชทานองค์หญิงเหวินเฉิง ทั้งเหตุผลทางการเมืองและส่วนตัว จึงกรีธาทัพไปโจมตีเผ่าทูเจี๋ยของอ๋องถูกู่หุนจนได้ชัย แล้วเคลื่อนพลไปตีชนเผ่าตั่งเซี่ยงเชียงและไป่หลานเซียง ผนวกกลืนแคว้นทั้งสอง จากนั้นก็เคลื่อนทัพจำนวนสองแสนคนมาตีเมืองซงฟาน อันอยู่ชายแดนของอาณาจักรต้าถัง
 
พระเจ้าถังไท้จง ในขณะนั้นไม่ปรารถนาจะทำศึกยืดเยื้อและทรงอ่านเกมการเมืองออก ทั้งยังทราบดีว่าซงจ้านกานปู้ยกทัพมาครานี้มิได้มุ่งหมายดินแดนถัง ดังที่อ๋องถูกู่หุนแห่งเผ่าทูเจว๋ใส่ร้าย แต่ต้องการกดดันราชสำนักให้ยอมพระราชทานเจ้าสาวให้ จึงตัดสินพระทัยที่จะยกองค์หญิงเหวินเฉิงให้ซงจ้านกานปู้
 
ศักราชเจินกวานปีที่สิบห้า ลู่ตงจ้าน ขุนนางคนสำคัญของธุฝานทำหน้าที่เป็นฑูตรับเจ้าสาว โดยพระเจ้าถังไท่จงส่งให้ หลี่ต้าจง เสนาบดีพิธีการติดตามไปด้วย การเดินทางนั้นใช้เวลาสามเดือน น้ำตาขององค์หญิงนั้นเล่ากันว่าเท่ากับแม่น้ำหนึ่งสาย
 
บุคคลใดที่มีดาวบาปเคราะห์กุมลัคน์ ทั้งเจ้าเรือนอยู่ภพวินาศ จะมีความหมายถึงในชีวิตต้องได้รับความทุกข์ที่เรียกว่าแสนสาหัส ความทุกข์อย่างลึกซึ้งทางใจ ซึ่งหมายถึงภพวินาศ ดาว ๒ ที่นำหน้าลัคน์เป็นราชาโชค เป็นคนสวยมีเสน่ห์ และมีปัญญา ทั้งใจอ่อนและอ่อนโยน การร้องไห้เมื่อจากบ้านจากเมืองเป็นที่เลื่องลือ ก็เพราะดาว ๒ นี่แหละ และต่อไปเป็นที่รักของชาวเมืองดินแดนใหม่ก็มีเหตุสองประการคือ ดาว ๒ เป็นราชาโชค และให้ดาว ๑ เกาะเป็นวรโคตรนวางค์ ที่นวางค์ ๒ เพชฌฆาตฤกษ์ อันเป็นฤกษ์ของการเป็นที่รักในต่างแดน
 
เมื่อมาถึงชายเขตแดนระหว่างจีนกับธุฝาน ก็พบซงจ้านกานปู้ซึ่งมารอรับอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว ซงจ้านกานปู้ได้ปฏิบัติต่อหลี่ต้าจง ผู้ส่งเสด็จเจ้าสาวอย่างให้เกียรติ รวมทั้งจัดพิธีรับเจ้าสาวอย่างใหญ่โต ด้วยการสรรหาดอกไม้นานาชนิดๆ จัดอย่างสวยงามในที่ประทับอย่างสมพระเกียรติเป็นการปลอบขวัญ เพราะทราบว่าองค์หญิงร้องไห้อย่างมากมาย และคิดว่าเพราะคิดถึงบ้าน
 
วันเพ็ญเดือนสี่ตามปฏิทินจันทรคติของทิเบตในปีนั้น ซงจ้านกานปู้ได้นำเสด็จองค์หญิงเหวินเฉิงกลับเมืองด้วยความปิติที่ได้สมปรารถนา ดาว ๕ ราชาโชคส่งแสงในทางที่ดีสู่ดาว ๗ นับเป็นเกณฑ์ของดาว ๗ คือ การเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี และมีความหมายถึงการมีคู่ครองที่ยิ่งใหญ่และอุปถัมภ์ค้ำจุน ดังที่อ๋องซงจ้านให้กับองค์หญิงเหวินเฉิงยามจากเมือง ประกอบกับดาว ๒ และ ๖ ร่วมธาตุถึงลัคนา แสดงถึงความสุขสมบูรณ์ในชีวิตครอบครัว
 
ประวัติศาสตร์จีนและทิเบตบันทึกตรงกันว่า ซงจ้านกานปู้มีใจจงรักต่อองค์หญิงเหวินเฉิงอย่างลึกล้ำ นับตั้งแต่เริ่มเดินทางเข้าเขตธุฝาน ซงจ้านกานปู้ ได้สร้างที่พักให้องค์หญิงเป็นระยะๆ ด้วยเกรงว่า องค์หญิงจะเหน็ดเหนื่อยกับการเดินทาง ความละเอียดรอบคอบที่ซงจ้านกานปู้สอบถามจากราชฑูต จึงทำให้มีการจัดเตรียมแม้กระทั่งอาหารที่องค์หญิงโปรดปราณ คือผักกาดดอง ผลไม้ดอง เผื่อการเดินทางที่ยาวนาน และเมื่อเดินทางมาถึงธุฝาน ก็จัดเตรียมตำหนักที่ประทับที่คล้ายคลึงกับบ้านเกิดขององค์หญิง
 
ซงจ้านกานปู้เปลี่ยนมาสวมอาภรณ์ตามแบบราชสำนักถัง องค์หญิงนับถือศาสนาพุทธ ซงจ้านกานปู้ก็สนับสนุน เมื่อองค์หญิงอยากสร้างวัด ซงจ้านกานปูก็สร้างวัดต้าจาวและวัดเลี่ยวจาว องค์หญิงชอบต้นไม้ ซงจ้านกานปู้ก็ให้คนปลูกต้นไม้ องค์หญิงชอบต้นหลิว ซงจ้านกานปู้ก็ปลูกต้นหลิวไว้มากมาย องค์หญิงชอบสวนดอกไม้ ซงจ้านกานปู้ก็ทำสวนดอกไม้ทั้งยังสนับสนุนให้ชาวเมืองปลูกดอกไม้ไว้หน้าบ้าน ทำให้ลาซาเมืองหลวงของธุฝานสดใสไปทั้งเมือง
 
แต่เดิม ชาวทิเบตจะใช้ดินสีน้ำตาลอมแดงทาหน้าเป็นริ้วๆ ตามประเพณี พอซงจ้านกานปู้ทราบว่าองค์หญิงรักความสวยงาม ความมีระเบียบ ก็ให้ยกเลิกประเพณีเก่าแก่ที่สืบทอดกันมานานนับพันปีนี้เสีย
 
ครั้นองค์หญิงคิดถึงบ้าน อ๋องแห่งธุฝานก็ให้สร้างจุดพักม้าขึ้นทุกระยะร้อยลี้ เพื่อคอยรับส่งจดหมายและของต่างๆ ที่องค์หญิงและเมืองจีนมีถึงกัน
 
องค์หญิงมีความรู้เรื่องการจัดบ้านสร้างเมือง รู้หลักทำเล ได้วางตำแหน่งวัดที่สำคัญอยู่ที่ตำแหน่งที่เปรียบเสมือนหัวใจมังกร โดยมองเห็นแนวเขตเมืองเชิงสัญลักษณ์เป็นรูปมังกร ทั้งนี้ ดวงดาวที่แสดงถึงความสามารถในหลักวิชาด้านนี้ มีองค์ประกอบคือ
 
ดาว ๑ กุม ๐ ดาว ๑ เป็นตนุลัคน์นะ อย่าลืม 
 
ดาว ๐ ถึงดาว ๒ และเล็ง ๙ มีวิชาเชิงจิตศาสตร์ 
 
ดาว ๕ เป็นสิบเอ็ดกับดาว ๔ ชำนาญและรู้หลักวิชาที่ลึกซึ้ง ทั้งสามารถในการสอนและปรับเปลี่ยนพัฒนา
 
องค์หญิงให้ช่างฝีมือชาวฮั่นที่ตามมาจากเมืองจีนมาทิเบต ถ่ายทอดวิชาต่างๆ เช่น การทำทอง สีข้าว กลั่นเหล้า ทำกระดาษและหมึกให้แก่ชาวทิเบต และสอนให้คนทิเบตรู้วิธีใช้อุปกรณ์การเกษตร วิธีการเพาะปลูกแบบใหม่ๆ ตลอดจนสอนดาราศาสตร์ ปฏิทินดาราศาสตร์แบบจีน การสร้างทำเลที่พักอาศัย สอนวัฒนธรรม ประเพณี การสร้างฮวงซุ้ย องค์หญิงออกเยี่ยมราษฏรทุกวัน และก่อนเจ้าหญิงมาทิเบต เผ่าธุฝานยังไม่มีอักษรของตัวเอง องค์หญิงจึงร่วมมือกับซงจ้านกานปู้ประดิษฐ์อักษรทิเบตขึ้นมา
 
ซงจ้านกานปู้รักและยกย่องให้เกียรติองค์หญิง ทั้งโปรดปราณองค์หญิงหาที่เปรียบไม่ได้ แคว้นธุฝานกลายเป็นประเทศที่จงรักภักดีต่อราชวงศ์ถังเสมอญาติ ซงจ้านกานปู้ได้ให้ช่างฝีมือของธุฝานปั้นรูปอันงดงามขององค์หญิงไว้ โดยทรงกำกับดูแลรูปปั้นนั้นให้ใกล้เคียงกับองค์หญิงมากที่สุด เป็นที่ประจักษ์แก่ตาจนทุกวันนี้ ทั้งยังให้ปั้นรูปพระองค์เองไว้เคียงคู่กัน ดวงชะตาเป็นดวงพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว มีความหมายว่าไม่ว่าเป็นหรือตายจะปรากฏชื่อเสียงขจรไกล
 
 
ดวงประเทียบ, โหราศาสตร์ไทย, ษณอนงค์, อาจารย์แอน, ฮวงจุ้ย, เหวินเฉิง
 
 
เรื่องราวขององค์หญิงเหวินเฉิงที่มาต่างบ้านต่างเมืองเพื่อสมรสการเมือง เป็นแบบอย่างให้องค์หญิงทั้งหลายที่ต้องต้องมาแต่งงานต่างแดน สร้างคุณงามความดีให้เป็นที่สรรเสริญจากผู้คน สมกับคำว่า “องค์หญิงอภิเษกเชื่อมไมตรี” แทนที่จะเป็นโศกนาฏกรรมอย่างที่เคยเป็นมา คุณธรรมที่เป็นเอกและโดดเด่นขององค์หญิงเหวินเฉิง คือความอดทน ความเพียรและสติปัญญา คือดาว ๕ ที่อยู่กลางฟ้าร่วมธาตุกับลัคนาเป็นสิบเอ็ดกับดาว ๔
 
ความอดทนในสิ่งที่คนธรรมดาทำไม่ได้ คือการอภิเษกต่างแดน เป็นความทุกข์อย่างเหลือแสนของผู้หญิงในราชสำนักจีน เพราะการจากบ้านจากเมืองในสมัยนั้นเสมือนตายจากกัน ต้องละสิ่งที่เคยชินเสมือนไปเกิดใหม่ในร่างเดิม ความเคยชินแบบเดิม อาหารการกิน ชีวิตความเป็นอยู่ คนคุ้นเคย ต้องละหมด เพื่อเริ่มต้นใหม่ เป็นความอดทนต่อสภาวะแวดล้อม และเข้าถึงสัจธรรมของความไม่เที่ยงในชีวิต
 
ความเพียรพยายามอย่างไม่ย่อท้อ ไม่ทำตนให้เป็นภาระ ศึกษาสิ่งรอบตัว หมั่นทำตนให้เป็นประโยชน์ ด้วยการออกศึกษาความเป็นอยู่ของสภาพแวดล้อมทั้งหมด แก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นกว่าเดิม ไม่ปล่อยเวลาให้เปล่าประโยชน์ ทำตนเป็นผู้ไม่ว่างในกิจการงานเมืองที่จะส่งเสริมซงจ้านกานปู้ในทุกวิถีทาง ผลที่ได้รับก็คือ องค์หญิงเป็นที่รักของทุกคนทั้งที่ใกล้ชิดและที่ห่างไกล
สติปัญญาขององค์หญิงเกิดจากการสังเกตและเรียนรู้ มีสติรอบคอบและไม่ละเลยรายละเอียดแม้เพียงเล็กน้อยที่ผ่านตา องค์หญิงใช้สติและปัญญาในการศึกษาปัญหาและแก้ปัญหา ทั้งไหวพริบปฏิภาณในการปรับตัวให้เข้ากับสภาวะแวดล้อม ทั้งใส่ใจทุกคน คิดการณ์ล่วงหน้า จึงเป็นที่รักของทุกคนโดยไม่ยาก
 
ต้นร้ายปลายดีอย่างนี้เพราะดาวบาปเคราะห์กุมลัคน์ แม้เป็นพระคู่สมพล คือดาว ๓ ๘ ที่แสดงผลถึงความอดทนแข็งแกร่ง แต่ก็ทำให้ชีวิตร้ายตอนต้นและจบดีตอนปลาย
 
เรื่องราวขององค์หญิงเหวินเฉิง สามารถนำเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิตของสตรีทุกคน ที่อาจต้องเผชิญเรื่องราวที่คล้ายคลึงกัน คุณสมบัติที่สำคัญดังที่กล่าวมาแล้ว เป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตของสตรีมีคุณค่า แม้จะต้องเผชิญอุปสรรคมากมายแค่ไหนก็ตาม อ่านแล้วนึกถึงวนิดา ทั้งนิยายและละครที่โด่งดังในทีวีช่องสาม
 
เรื่องราวขององค์หญิงเหวินเฉิงแม้ไม่ยิ่งใหญ่ และอาจไม่ใช่ตำนานที่โศกสลดเสียสละอันน่าประทับใจเช่นเรื่องราวของ หวังเจาจวินสมัยราชวงศ์ฮั่น คือเป็นเรื่องราวของการล้างค่านิยมของความทุกข์ในการ อภิเษกต่างแดน
 
และหากใครไปทิเบต ก็จะได้รับรู้อย่างหนึ่งว่า ชาวทิเบตยกย่ององค์หญิงว่า เป็นพระโพธิสัตว์ปางหนึ่งของพระสมันตรภัทรโพธิสัตว์ ทั้งเรียนทั้งอ่านแล้ว ได้บุญ นะคะ