ความรู้เกี่ยวกับโหราศาสตร์

 

โหราศาสตร์แนะแนว ตอนที่ ๑๖ - ภพตนุ
17 เม.ย. 2560

 

ภพตนุนี้มีความสำคัญ เพราะนอกจากจะเป็นบุคลิกของเจ้าชาตาแล้ว ยังแสดงถึงความขึ้นหรือลงของเจ้าชาตาอีกด้วย เพราะนอกจากจะดูตามพื้นชาตาว่า เจ้าเรีอนลัคนาไปสถิตภพใดแล้ว ยังต้องสังเกตดาวจรที่โคจรมาต้องลัคนาอีกด้วย

 

ดาว ๑ มาทับลัคน์ มักร้อนใจ ร้อนที่ มักเปลี่ยนแปลงที่อยู่อาศัย หรือต้องเดินทาง บางคนก็ถูกของร้อน หรือมีอันต้องร้อนใน

 

ดาว ๒ มาทับลัคน์ ซึ่งต้องมีทุกเดือน มักมีลาภปาก หรือพบเพื่อนฝูง

 

ดาว ๓ มาทับลัคน์ มักมีอุบัติเหตุ บาดเจ็บเล็กน้อย มักมีเหตุร้าย หากพื้นดวงเดิม ลัคนามีดาวบาปเคราะห์อยู่ร่วมด้วย

 

ดาว ๔ มาทับลัคน์ มักปวดท้อง บางคนก็ได้ข่าว บางคนก็ของหาย

 

ดาว ๕ มาทับลัคน์ มักเลื่อนยศ บางคนเดินทาง บางคนได้บวช ชีวิตมักเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีระยะนี้

 

ดาว ๖ มาทับลัคน์ มักได้ลาภ ได้ของกำนัน ได้ของสวยงาม

 

ดาว ๗ มาทับลัคน์ มักทุกข์ใจ คิดมากสารพัด กังวล หวาดระแวง นอนไม่หลับ แน่นหน้าอก ป่วยเจ็บเรื้อรัง เสื่อมลาภ เห็นผิดเป็นชอบ มักถูกหลอก

 

ดาว ๘ มาทับลัคน์ เคราะห์ร้าย มักมีปัญหาเรื่องคู่ เรื่องงานถูกใส่ร้าย เข้าใจผิด มักเที่ยวกลางคืนหรือหันหาอบายมุข บริวารไม่ซื่อ หมดตัว บางคนต้องเข้าโรงพยาบาล

 

ดาว ๙ มาทับลัคน์ มักวุ่นวาย มีอะไรที่วุ่นวายตลอด เหมือนเป็นคนไม่มีเวลาว่างเลย แต่เป็นเพียงระยะสั้นเท่าวงโคจรของดาว ๙

 

ดาว ๐ มาทับลัคน์ มักเดินทาง หรือมีการเปลี่ยนแปลง ชีวิตผันแปร

 

ดาวเนปจูน มาทับลัคน์ มักมีเคราะห์ หรืออาจต้องสัมพันธ์กับคนหมู่มาก ต้องเดินทางบ่อยๆ โยกย้ายภูมิลำเนา

 

ดาวพลูโต มาทับลัคน์ ต้องสังเกตพื้นดวงเดิมประกอบว่า พลูโตเดิมอยู่ภพใด ให้โทษหรือให้คุณอย่างไรในดวงชาตา

 

ดาวที่โคจรมานั้น ไม่เพียงแต่มีผลเมื่อทับลัคน์เท่านั้น ยังมีผลกับดาวเจ้าเรือนลัคน์ด้วย รวมทั้งดาวที่มีองศาสูงสุด เพราะดาวที่มีองศาสูงสุด จะมีอิทธิพลกับชาตาเทียบเท่าลัคนา

 

เพราะฉะนั้น การตรวจดูดวงชาตาต้องรอบคอบ ดูลัคนา ดาวเจ้าเรือน รวมทั้งดาวที่มีองศาสูงสุด และบางครั้ง ต้องตรวจดูดาววันเกิดควบคู่ไปด้วย จึงจะได้ผลที่แน่นอนและแม่นยำ

 

ดาวที่โคจรมาทับลัคนานั้น ควรตรวจดูให้ละเอียดว่ามาจากภพใด เพราะจะแสดงผลตามภพนั้นๆ ด้วย โดยเฉพาะถ้ามาจากภพอริ มรณะ และวินาศ มักพาโทษมาก่อน แล้วให้คุณทีหลัง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพื้นดวงเดิมด้วยว่า ดาวดวงนี้เคยให้คุณหรือโทษมาอย่างไร

 

ดาวต่างๆที่โคจรมาทับลัคน์นั้น จะให้โทษหรือให้คุณมากน้อยอย่างไร ต้องดูความเป็นดาวบาปเคราะห์หรือศุภเคราะห์ประกอบกัน รวมถึงการได้รับกระแสช่วยเหลือจากดาวศุภเคราะห์ในมุมโยก มุมตรีโกณ หรือได้รับกระแสซ้ำเติมจากดาวบาปเคราะห์ หรือได้รับกระแสซ้ำเติมจากมุมจตุเกณฑ์ (คือเป็น ๔ แก่กัน) เหล่านี้ต้องนำมาพิจารณาร่วมถึงความหนักเบาของเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นด้วย

 

เมื่อเราได้พิจารณาโดยละเอียดแล้ว ถึงจะหาหนทางแก้ไขด้วยทำเล หรือการจัดวางสิ่งของต่อไป รวมถึงการปฏิบัติตนเพื่อหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ต่างๆ ได้ โดยใช้หลัก ฟ้าประทาน บันดาล ประสานบุคคล

 

เฉพาะภพตนุเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้เรารู้อะไรที่เกี่ยวกับตัวเองได้มากพอสมควร ดังนั้น โหรส่วนใหญ่จึงใช้ลัคนาเพียงตัวเดียวในการตรวจดูดวงชาตาปัจจุบัน