ความรู้เกี่ยวกับโหราศาสตร์

 

อิทธิพลดาวกุมลัคน์ (ดาวเกตุ)
9 มี.ค. 2561

 

ดาวเกตุ (๙) นำหน้าลัคนาหรือดาวดวงไหนก็ตาม ถือเป็น “เกณฑ์ทุรารัมภะ”
 
พระเกตุ นั้น ในทางดาราศาสตร์ไม่มีดาวเกตุหรือคำว่า “เกตุ” แต่จะมีความหมายในทางโหราศาสตร์ ซึ่งกล่าวไว้ในตำนานดวงดาวของฮินดู 
 
ถ้านำมาเทียบกับทางดาราศาสตร์ ก็เท่ากับเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นบนท้องฟ้าอุบัติขึ้นโดยที่ไม่ได้มีการ คาดหมายมาก่อน อาจจะเป็นในลักษณะของดาวตก อุกกาบาต  หรือผีพุ่งไต้ หรือการระเบิดของดวงดาว
 
ในทางโหราฯ ได้เพิ่มเติมไว้ว่า “เกตุเป็นเหตุการณ์ที่อุบัติขึ้น อาจจะโดยกรรมหรืออะไรก็แล้วแต่ ที่มันเกิดขึ้นอย่างกระทันหัน อุปติฆาตกรรม ก็คือดาว ๙  กระแสที่เกิดขึ้นจากการกระทำปัจจุบันของคน โดยไม่มีกรรมเก่าสืบเนื่อง คือเป็นความคิด อารมณ์อันเกิดจากสภาพแวดล้อม คือดาว ๙
 
ดาว ๙ บางครั้งจึงเป็นตัวแปรให้สถานการณ์ต่างๆ มีความเคลื่อนไหว เรียกว่า “วุ่นวายเกิดขึ้น” แล้วไปใกล้ตรงไหน ก็อาจจะก่อให้เกิดสิ่งอะไรที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้
 
เพราะฉะนั้นดาว ๙ จึงเป็นตัวแทนวัตถุที่เหมือนกับอะไหล่ ที่ไปเสริมไปเพิ่มไปเติม ที่อาจจะทำให้เกิดระเบิดก็ได้ หรือให้เกิดความเคลื่อนไหว หรือให้เกิดมีกำลังแรง
 
โดยสรุป กำลังของพระเกตุ จึงมีในลักษณะไปอยู่กับดาวดวงไหน ก็ไปเสริมให้ดาวดวงนั้นมีกำลังแรง ทางโหราฯจึงเรียกว่าดาว “อัพยากฤต” เป็นกลางๆ เป็นตัวเร่ง เป็นตัวมอเตอร์ เป็นน้ำมัน  สุดแต่จะเปรียบเทียบกัน
 
ดาว ๙ ไม่ได้เป็นดวงดาว มีคุณสมบัติดังนี้ จับต้องไม่ได้ เป็นกระแสตัวหนึ่ง ที่ทางจีนเรียกว่า “ชี่” หรือ “พลัง” ทางฮินดูเรียกว่า “ญาณพิเศษ” หรือว่า “เซ็นส์พิเศษ” เป็นลักษณะการที่สามารถหยั่งรู้ (มีญาณหยั่งรู้ ทิพยจักษุญาณอย่างอ่อน) สามารถรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า หรือเรียกว่ามี “ลางสังหรณ์” ตัวนี้เราเรียกว่า “เกตุ”
ถ้าสัมพันธ์อยู่ในดวงชาตาของใคร ในขณะที่เราเกิด อาจจะมีอุบัติการณ์เกิดขึ้น อาจมีเงา จุดคราส ที่บังกันมาใกล้ลัคนา ก็หมายความว่า ลัคนาหรือจุดกำเนิดของเราตรงนั้น ได้รับญาณพิเศษ หรือมีเหตุการณ์อุบัติขึ้น อะไรที่แตกต่างไปจากคนอื่น
 
ดาว ๙ จะมีผลหรืออิทธิพลต่อบุคคลมากที่สุด จะต้องเป็นดาว ๙ ที่กุมลัคน์ บ้างก็ว่า เป็นดาวที่คุ้มครองอายุ บ้างก็ว่าเป็นดาวอุบัติเหตุ ฯลฯ แต่ประสพการณ์ ทั้งจากครูบาอาจารย์หลายๆ ท่าน และจากตัวอาจารย์เอง เห็นว่า ๙ กุมลัคน์ใคร มักจะเป็นคนที่มีความคิดเป็น ๒ ทาง คือ
 
ฟุ้งซ่าน ฟุ้งเฟื่อง จนสติเพี้ยนไป เนื่องจากถูกดาวเบียน เช่นมี ดาว ๗ เบียน หรือบาปเคราะห์อื่นๆ เบียน
หรืออาจจะเป็นคนที่ฝักใฝ่เกี่ยวกับศาสนา วิชาโบราณ หากไปในทางเสียคือไสยศาสตร์ มีความคิดที่กว้างขวาง หรือบางครั้งเป็นความคิดที่มักใหญ่ใฝ่สูง คิดไกล คิดมากจนวิกลจริตก็มี
 
บางตำรา บางโหราจารณ์ ก็กล่าวไว้ว่า “๙ กุมลัคน์ใคร มีสิทธิ์วิกลจริต” เพราะว่าความคิดมากเกินไป จนเรียงลำดับความคิดนั้นไม่ถูก เพราะขาดการอบรมขัดเกลาทางด้านจิตใจ
 
เพราะฉะนั้น ดาว ๙ กุมลัคน์ใครก็ตาม ทั้งทางดาราศาสตร์ โหราศาสตร์ และศาสนา ควรที่จะฝึกในการที่จะขัดเกลาจิตใจ อบรมบ่มนิสัยให้เรียงลำดับเหตุการณ์ให้ดี ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นคนที่ฟุ้งซ่าน ผิดๆ เพี้ยนๆ ไป
แม้จะไม่มีดาว ๙ กุมลัคน์ แต่มีชื่อ มีนามที่เกี่ยวกับ “เกตุ” ก็ให้ผลเช่นกัน มักจะมีเหตุการณ์อะไรที่เกิดโดยไม่คาดฝันเสมอๆ
 
สรุปโดยทั่วไป ผู้ที่มีดาว ๙ กุมลัคน์ มักจะมีญาณพิเศษ สามารถรู้เหตุการณ์เบื้องหน้าได้เป็นอย่างดี เรียกว่ามี “ลางสังหรณ์” ขึ้นอยู่กับความหยาบและความละเอียดของจิต ซึ่งเราจะเรียกลางสังหรณ์ว่า ความฟุ้งซ่านที่มีอุปทานเข้าไปผสม หรือว่าเป็นลางสังหรณ์ที่บริสุทธิ์ เนื่องจากได้รับการอบรมบ่มนิสัย หรือว่าขัดเกลามาโดยตลอด ไม่ให้มีอุปทาน
 
อย่างไรก็ตาม คนที่ดาว ๙ กุมลัคน์ ขอให้ถือศีลโดยเฉพาะข้อ ๔ ให้บริสุทธิ์ มีสัจจะ จะทำอะไรต้องเป็นไปตามคำพูดที่เราพูดไว้ ซึ่งจะแก้ไขความฟุ้งซ่านของเราได้ดี แต่เป็นคนมีหัวพลิกแพลง เพราะดาว ๙ เป็นอะไรที่ไม่ใช่ดาว เป็นปรากฎการณ์ที่มีการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า
 
ดาว ๙ จะทำให้คนๆ หนึ่ง แตกต่างไปจากคนอื่นๆ ด้วยไหวพริบปฎิภาณ ด้วยความคิดที่รวดเร็วเหมือนสายฟ้าแลบ แต่ถ้าออกไปในทางไม่ดี ก็จะทำให้เป็นคนที่ทำอะไรปุบปับ เหมือนคนวิกลจริต ทำอันโน้นทีอันนี้ที ซ้ายทีขวาที แล้วก็ไม่ได้คิดถึงผลเสีย ขาดความรอบคอบ ใครที่มีดาว ๙ กุมลัคนา ต้องตั้งสติให้ดีๆ แล้วก็ต้องมีการอบรมและขัดเกลาจิตใจ เป็นข้อสำคัญ
 
ข้อดีคือ เป็นคนชอบคิด แต่ไม่ค่อยชอบพูด ถ้าพูดออกมาก็คือหลักวิชาการ คือไม่ชอบพูดมาก เพ้อเจ้อเหลวไหลจะไม่มี ฉะนั้น จะฝึกกรรมบท ๑๐ ได้ดีมาก เก็บความในใจได้ดี อดทน
 
แต่ถ้าไม่ได้รับการกล่อมเกลาจิตใจ มีความฟุ้งซ่าน ก็จะกลายเป็นคนที่อาจจะเป็นได้ถึง “วิกลจริต” มันมากเกินไปในความคิด