บทความพิเศษ

 

พิชัยสงครามกับสามก๊ก ตอนที่ ๓๙/๑ - โจโฉแตกทัพ
3 มิ.ย. 2561

 

ย้อนกลับมาดูที่จิวยี่ เมื่อเห็นโจโฉตรึงเรือรบเข้าด้วยกันตามแผนการแล้ว ก็มานึกขึ้นได้ว่า ฤดนี้ไม่มีลมสลาตันที่จะพาเรืออุยกายเข้าไปเผาทัพเรือโจโฉได้ ในการเผาทัพเรือโจโฉด้วยวิธีใดก็ตาม ลมก็จะพัดไฟย้อนกลับมาเผาตัวเอง ก็เสียใจว่าแผนการที่วางไว้ เห็นทีจะไม่สําเร็จ 
 
วันหนึ่ง จิวยี่ขึ้นไปดูทัพเรือโจโฉบนเนินเขา เห็นพายุพัดธงเหลืองใหญ่ในกองทัพเรือโจโฉหักสะบั้นลง ก็ดีใจหัวเราะ แล้วว่านั่นเป็นลางร้ายของโจโฉ พอพูดไม่ทันขาดคำ ลมตีกลับพัดเอาธงชัยในกองทัพจิวยี่หลุดปลิวไปตกตรงเนินเขาตรงหน้าจิวยี่ จิวยี่ตกใจเห็นเป็นลางร้าย ก็รากเลือดออกมา 
 
จิวยี่เป็นคนอารมณ์ร้อน มีอารมณ์ที่รุนแรง ก็คือเลือดจะคั่งอยู่ ณ จุดใดจุดหนึ่ง ไม่ตรงสมอง ก็ตรงหัวใจ ตรงปอด พอโกรธมากๆ เข้า ก็แน่นหน้าอก ต้องรากเลือดออกมา เป็นอาการของความดันของโลหิต ก็เป็นลมล้มสลบไป ทหารทั้งปวงก็ช่วยกันหามจิวยี่กลับเข้าค่าย ต่างก็เป็นทุกข์กันทั้งหมดว่า ถ้าโจโฉยกมาเวลานี้ จะเสียทีแก่โจโฉเป็นแน่ จึงรีบรายงานไปให้ซุนกวนทราบ 
 
บุคคลที่จะมีอาการรากเลือดได้ง่ายๆ คือบุคคลที่มีดาว ๓ กุม ที่เคยบอกว่าจิวยี่มีดาว ๓  กุม โกรธง่าย แล้วก็ขี้อิจจา จะเป็นโรคความดันง่าย ปวดหัวง่าย แน่นหน้าอกง่าย นี่เป็นลักษณะของผู้ที่ดาว ๓ กุม ดาว ๗ อยู่หน้า ลักษณะนี้จะเป็นลักษณะที่มีจิตใจที่ค่อนข้างกดดัน ทําอะไรต้องทําให้ได้ดังใจ 
 
โลซก เห็นจิวยี่ป่วยมาก มีความไม่สบายใจ ก็ไปหาขงเบ้งเล่าความให้ฟัง ขงเบ้งก็แกล้งถามว่า แล้วท่านทั้งหลายจะทําอย่างไรต่อไป โลซกก็บอกว่า ก็เป็นบุญของโจโฉ  เป็นกรรมของฝ่ายเรา ข้าพเจ้าก็ไม่รู้จะทําอย่างไร ขงเบ้งก็หัวเราะ โรคอย่างนี้ ข้าพเจ้าพอจะรักษาให้หายได้ โลซกก็ดีใจ บอกว่า ถ้าอาจารย์รักษาจิวยี่ให้หายได้ ก็เป็นบุญของกันตั๋ง แล้วโลซกก็เชิญขงเบ้งเข้าไปในค่ายแม่ทัพ ให้ขงเบ้งคอยอยู่ข้างนอก
 
โลซกเข้าไปข้างใน เห็นจิวยื่นอนซมอยู่ เอาผ้าคลุมศีรษะเอาไว้ คือเป็นความตรอมใจอย่างหนึ่ง โลซกถามว่า เป็นอย่างไรหรือ จิวยี่ก็ครางแล้วบอกว่า มันเจ็บในหัวอก มันมึนงงและก็วิงเวียนศีรษะ โลซกถามว่า ท่านแม่ทัพรับประทานยาอะไร จิวยี่ก็บอกว่าลมมันตีขึ้นอยู่เรื่อยๆ กินยาก็ไม่ได้ โลซกก็บอกว่า อันโรคของท่านนี้ ขงเบ้งรับรักษาได้ ข้าพจ้าก็เลยเชิญมา อยู่ข้างนอก ถ้าหากท่านมีความประสงค์ก็จะได้เชิญเข้ามา จิวยี่ก็ให้เชิญเข้ามาได้ ขงเบ้งก็เข้ามา ทหารรับใช้พยุงจิวยี่ลุกขึ้น 
 
ขงเบ้งก็ถามอาการเจ็บป่วย จิวยี่ก็พูดว่า ใครจะสบายอย่างไรได้ เกิดเป็นคนก็ต้องผจญกรรมดีบ้างชั่วบ้างเป็นธรรมดา ตอบอย่างรักษาเชิง ขงเบ้งก็พูดเป็นปริศนาว่า จริงทีเดียว เมฆและลมบนฟ้านั้น ยากที่จะหยั่งได้ ไม่รู้ว่าจะพัดมาหรือพัดไปเมื่อไหร่  หรือท่านแม่ทัพเห็นเป็นอย่างไร จิวยี่ก็สะดุ้ง รู้ว่าขงเบ้งหยั่งใจได้ถูกต้องว่ามีความทุกข์เรื่องนี้ ขงเบ้งก็พูดต่อไปว่า ท่านรู้สึกกลัดกลุ้มใจใช่หรือไม่ จิวยี่ก็ยอมรับ ขงเบ้งก็บอกว่าโรคอย่างนี้ต้องใช้ยาเย็นจึงจะหาย จิวยี่ก็บอกว่า ข้าพเจ้ารับประทานยาเย็นหลายขนานแล้ว ไม่เห็นหายสักที ขงเบ้งก็ตอบว่า ถ้าจะกินยาต้องทําให้อารมณ์ดี ยาจึงจะให้คุณ จิวยี่ก็บอกว่า จะให้ทําอย่างไรจึงจะทําให้อารมณ์ดี ขงเบ้งก็บอกว่าข้าพเจ้ารู้วิธี
 
ขงเบ้งให้ทหารรับใช้ออกไปนอกห้อง เอาพู่กันเขียนหนังสือว่า "เตรียมการพร้อมสรรพ จะเผาทัพเรือโจโฉ แต่ยังขาดลมสลาตัน" เสร็จแล้วก็ยื่นให้จิวยี่ พลางว่านี่แหละเป็นสมุฏฐานแห่งโรคของท่าน จิวยี่รับมาอ่านก็ตกตะลึง นึกในใจ ขงเบ้งเป็นผู้วิเศษแน่ อ่านความในใจของกูถูกทุกประการ ก็ถามว่า เมื่อท่านรู้สมุฏฐานฉะนี้ จะแก้ไขอย่างไรให้ทันท่วงที พอมาถึงตรงนี้ เป็นเรื่องธรรมดา ขงเบ้งอ่านดวงดาวออก ก็ย่อมรู้ว่าฤดูกาลแบบนี้เอาไฟเผา ต้องอาศัยลม แล้วจะต้องเป็นลมที่มาจากทิศตะวันออกเฉียงใต้ด้วย  เพราะว่าต้องผลักเรือของจิวยี่ที่อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ให้ขึ้นไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ ก็จะไปเจอทัพโจโฉ ถ้าไม่มีลมตรงนี้ก็ไปไม่ได้ 
 
ช่วงนี้ดาวเกตุจะเป็นตัวแปร ทุกปีจะมีลมสลาตัน แต่ขงเบ้งก็ไม่ได้บอกอะไรกับจิวยี่ สมัยนั้นคงจะไม่รู้โหราศาสตร์กันมากนัก ขงเบ้งบอกกับจิวยี่ว่า เคยร่ําเรียนวิชาเรียกลมเรียกฝนมาบ้าง อันนั้นเป็นอุบาย ถ้าไม่บอกอย่างนี้ก็จะไม่ได้ตั้งประรําพิธี ตนเองก็จะหนีไม่ได้ ก็บอกจิวยี่ว่า ถ้าอยากจะได้ลม ก็ให้ปลูกโรงพิธีบนเนินเขาลําปินสาน สูงเก้าศอก ให้ทหาร ๑๒๐ คน ถือธงล้อมรอบ ข้าพเจ้าจะบริกรรมคาถาเรียกลมสลาตันมาให้ท่าน ๓ วัน ๓ คืนเพียงพอหรือไม่ ดาวเกตุย้ายเข้ามา มีผลถึง ๓ วัน ๓ คืน บวกลบ ๓ วัน 
 
จิวยี่ดีใจบอกว่า อย่าว่าถึง ๓ วัน ๓ คืนเลย คืนเดียวก็สําเร็จแล้วล่ะ ขอให้ท่านอาจารย์ลงมือบริกรรมโดยเร็วเถิด ขงเบ้งบอกว่า จะเรียกลมตั้งแต่เวลายามสามในแรม ๕ ค่ํา จะเรียก ๒ วัน จิวยี่หายไข้ทันที ลุกขึ้นจากเตียงนอนลงมาคํานับขงเบ้ง สั่งให้ทหารเตรียมพร้อมทุกกรมกอง แล้วให้ทหาร ๕๐๐ คนไปสร้างโรงพิธีให้ขงเบ้งบนยอดเขาลําปินสาน สั่งทหาร ๑๒๐ คนทําหน้าที่ถือธงรายล้อมโรงพิธี ให้อยู่ในบังคับบัญชาของขงเบ้งโดยตรง
 
ขงเบ้งก็คํานับลาขึ้นม้าไปกับโลซก อํานวยการสร้างโรงพิธีบนยอดเขา พอเสร็จการ เช้าแรม ๓ ค่ํา คํานวณว่าลมสลาตันมาแรม ๕ ค่ํา ก็เลยตั้งแต่เช้าแรม ๓ ค่ําเดือนอ้าย ขงเบ้งก็อาบน้ํำชําระกายให้บริสุทธิ์ นุ่งห่มเหมือนนักบวชในลัทธิเต๋า ขึ้นไปสู่โรงพิธี แล้วหันหน้ามาสั่งโลซกว่า จงกลับไปค่าย ช่วยแม่ทัพในการเคลื่อนพล ลมไม่มาอย่ามาโทษกัน เพราะว่าข้าพเจ้าก็ไม่ใช่ผู้วิเศษ