คำคม..ข้อคิด

 

คำคม..ข้อคิด ๒๘
27 ก.ค. 2561

 

วันนี้วันพระ ฝากข้อคิดเตือนใจให้แก่ศิษย์ของอาจารย์กัน
 
การอ่านหนังสือ หรือบทความที่เป็นข้อธรรม หรือหนังสือธรรมะที่พระเถระเจ้าต่างร้อยเรียง อรรถาอธิบาย ควรจะอ่านแบบ เคี้ยวอาหาร คือ ละเอียดรอบคอบ ทบทวนซ้ำไปซ้ำมา ถ้าสักแต่ว่าอ่าน รู้แค่ชอบ กับไม่ชอบ หรือโดนกับไม่โดน การฝึกสมาธิของเราจะอยู่ในขั้นขนิกสมาธิ เป็นสูงสุด ไม่มีทางก้าวหน้าไปกว่านั้น 
 
พระบรมศาสดาสอนเหล่าภิกษุให้จดจำข้อธรรมเพื่อนำไปปฏิบัติ ด้วยการท่องบ่น สาธยาย แปลว่า อ่านทวน และทบทวน ดังจะเห็นได้จากบทสวดมนต์ที่ซ้ำไปซ้ำมาจนเราจดจำได้
 
เวลาเราอ่าน ถ้อย วลี ที่ไม่เกิดประโยชน์ กลับจดจำแถมทำตาม เช่นพูดไปด่าไป คำด่าใหม่ๆ ศัพท์วัยรุ่นทันสมัย เรากลับจดจำนำมา "ท่องบ่น" แล้วยังพูดตามมาเป็นสำนวนประจำตัว
 
นำนิสัยของการ ติด ตาม อ่านอย่างตั้งใจจนจำ นำมาใช้กับการอ่านหนังสือธรรม หรือบทความที่เป็นประโยชน์ ให้อยู่ในสัญชาติญาน จะดีไหม
 
อ่านธรรมะ ข้อปฏิบัติ อ่านเหมือนเคี้ยวตัวหนังสือ
 
อ่านเรื่องที่ไม่สมควร สักแต่ว่าอ่านไปแล้วทิ้ง ลืม คือวาง ค่ะ
 
 
รู้จริง รู้ลึก รู้รอบ รู้ไกล คือสิ่งที่เราต้องเริ่มในการทำทุกสิ่งในมือให้ดีที่สุด
 
กาย คือแต่งกายสุภาพเรียบร้อย
 
วาจาคือ สุภาพเรียบร้อย อ่อนน้อม รับฟัง พูดแล้วต้องไม่พลาด
 
ใจ คิดรอบคอบ ละเอียดรอบรู้ และเห็นใจผู้อื่น
 
เมื่อสิ้นวัน ต้องสงบเพราะไม่ติดค้าง ไม่มีเจ้ากรรม ต้องปิติที่ทำความดี การงานเรียบร้อยไม่คั่งค้าง ต้องสุขสบายใจที่รู้ว่าพรุ่งนี้และวันหน้า จะมีผลดีจากการทำดีที่สุดแล้วในวันนี้ ... คือการดำเนินชีวิตอย่างรอบคอบและมั่นใจว่าไม่พบกับความล้มเหลวแน่นอนค่ะ
 
 
มีอะไรคิด มีอะไรทำ ที่เป็นประโยชน์ ความปิติ อิ่มใจก็เกิด ความสงบก็ตามมา ฟุ้งซ่านก็น้อย จะรัก จะโกรธ จะขุ่นมัว ก็จบลงในสิ้นวัน ราตรีสวัสดิ์ค่ะ
 
 

กิจกรรมของเด็กกับผู้ใหญ่ พ่อ แม่ ลูก ไม่เพียงต้องไปเที่ยวด้วยกัน ไปห้าง ไปกินข้าว แต่ได้มีโอกาสคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ตอบคำถามที่เด็กอยากรู้ได้ทุกเรื่อง ไม่แบ่งแยกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเด็ก เรื่องนี้เป็นเรื่องผู้ใหญ่ ถ้าหากว่าเรื่องที่จะพูดคุยกันหรือเรื่องที่อยากถามนั้นมันเกิดประโยชน์และเป็นประสบการณ์ที่เขาควรรู้


เชื่อไหมคะ บางครั้งก็ฟังเด็กพูดแล้วได้อะไรมากมาย รวมถึงให้ข้อคิดบางอย่างที่เรามองข้าม


ข้อสำคัญเป็นการลดช่องว่างระหว่างกันด้วยค่ะ เพราะเราได้เรียนรู้โลกเขา และให้เขาได้เข้าใจโลกของเราด้วย


ทั้งหมดนี่เรียกว่า ความรักความเข้าใจ ท้ายสุดคือความอบอุ่นในครอบครัวที่ลดปัญหาลงได้หลายอย่างในสังคม


อย่าลืมสวดมนต์ ทำสมาธิ ทำความดีเพื่อให้เกิดความเย็นใจในบ้านของเรานะคะ

 

 

ถ้าเราหวังความราบรื่น เป็นที่เชื่อถือ ประสพความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ สามารถแก้ปัญหา หนักแน่นไม่โลเล มั่นใจ ได้เพื่อนดี และเป็นที่รัก
 
ก็จงตรงต่อเวลา เพียงอย่างเดียวก็เห็นผล
 
คนตรงต่อเวลา คือ คนที่มีสัจจะ ทั้งตั้งมั่นที่จะทำให้สำเร็จตามวาจา แม้กระทั่งการนัดหมาย อย่างนี้ จะทำอะไรก็ต้องสำเร็จเพราะเรื่องเล็กน้อยยังไม่ละเลย
 
การตรงต่อเวลาเพราะเราให้เกียรติคนที่เรานัดหมายจึงเป็นที่รัก และน่าเชื่อถือ ทั้งเป็นคนที่รู้จักตนเอง วางแผนดี มีการเตรียมตัว เช่นเมื่อรู้ว่าเราต้องใช้เวลาเท่าไหร่ในการแต่งตัว ทานอาหาร กำหนดเส้นทางและเผื่อเวลาเดินทาง 
 
ความคิดที่ละเอียดเช่นนี้ ถ้าสม่ำเสมอ คือความเป็นคนตรงต่อเวลาตลอดชีวิต เป็นคนมีวินัย อ่อนน้อมเป็นที่รัก ทั้งการงานไม่คั่งค้างด้วยนิสัยที่ตรง ล้วนแล้วแต่อยู่ในความเป็นมงคลที่สมเด็จพระบรมศาสดาตรัสไว้ นำความเจริญและความสำเร็จมาสู่ชีวิต เป็นบัณฑิตน่าคบหาไว้ใกล้ตัว
 
ตรงกันข้าม ผู้ไม่ตรงต่อเวลาก็บอกอะไรได้หลายอย่างรวมถึงตอบคำถามตัวเองว่า ทุกวันนี้เราเป็นคนมีปัญหาเสมอ และไม่ประสพผลสำเร็จเพราะอะไร แถมจะปฎิบัติยังไม่ก้าวหน้าอีก

 

คิดแล้วทำค่ะ
 
 

ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ คุยในสิ่งที่เป็นประโยชน์ ฝึกสมองสร้างสรร สร้างปัญญา ไม่อยู่นิ่งเฉย วางแผนไปล่วงหน้า ไม่งอมืองอเท้า อยู่หรือทำงานไปวันๆ คือคนที่จะประสพความสำเร็จ

เหนื่อยอย่างมีแผนและมีเป้าหมาย สร้างกำลังใจให้ตนเอง ใคร่ครวญอย่างรอบคอบ ผิดทางแล้วหยุด รู้จริงในสิ่งที่ทำ ไม่มีล้มเหลวแน่นอนค่ะ ไม่ต้องกลัว