- ฮวงจุ้ยพื้นฐาน
- รูปภาพและความหมาย
- ฮวงจุ้ยสำนักงาน
- ฮวงจุ้ยที่ดิน
- ฮวงจุ้ยร้านค้า
- ฮวงจุ้ยบ้านเรือนที่อยู่อาศัย
- ข้อห้ามเกี่ยวกับการเลือกที่อยู่อาศัย
- ทำเลเสียดูอย่างไร
- ดาว ๙ ยุคคืออะไร
- ดวงจีน
- การดูลักษณะภูเขา
- กรณีศึกษาฮวงจุ้ย
- ประสบการณ์การดูทำเลของอาจารย์แอน
- คำคม..ข้อคิด
- เกร็ดความรู้จากพุทธศาสนา
- เกร็ดความรู้ที่ได้จากวรรณคดี
- บทความพิเศษ
23 พ.ค. 2558
อะไรที่เป็นเอกเป็นเด่น ขอบอก....... เราได้ไปหมด ทะเลทรายก็ไปนะ ขี่อูฐท่องทราย เรียกได้ว่าสัมผัสทรายจริงๆ เข้าทั้งปาก หู จมูก ทุกทวารที่ปรากฏ เดินในทราย ลองเป็นชาวทะเลทราย เผื่อจะติดตามไปกับชอลิ่วเฮียง ไปพบเจี๊ยะกวนอิมบ้าง ปรากฏว่าไปได้แค่ชายขอบๆของทะเลทราย ก็ต้องร่อนกลับมา ทั้งที่เขาก็อำนวยความสะดวก ให้นั่งกระเช้าข้ามที่เขาบอกว่าในอดีตเป็นแม่น้ำ แต่เปล่าหรอก ที่เห็นคือร่องทะเลทราย ที่เขาคงเวทนานักท่องเที่ยว ถ้าจะเดินไปเรื่อยคงติดตรงอีร่องนี่แหละ นั่งกระเช้าก็ให้บรรยากาศไปอีกแบบ
ที่น่าสนใจ เพราะเราบ้าอ่านนิยายของโกวเล้ง ตอนชอลิ่วเฮียงเข้าทะเลทรายแล้วเห็นเรือ เราก็เห็นเหมือนกัน เขาทำรูปรถเป็นแบบเรือลื่นไถล แต่ตอนนั้นหน้าทุกคนเป็นไอ้โม่ง เขาไม่ได้บอกเราล่วงหน้าว่าเราต้องเผชิญลม ที่คอยแต่จะพัดทรายเข้าปากเข้าจมูก โถ ถ้าบอกล่วงหน้าเราจะปิดหน้าให้เหมือน เจิงเพ่ยเพ่ย ในหงส์ทองคะนองศึก.......เก่าไปไหมเพ่....... วนิดาไม่รู้จัก
รู้แล้วว่าคนทะเลทรายทำไมถึงได้ปิดหน้า ใส่แขนยาว แดดเปรี้ยงแต่ไม่ร้อนนะคะ ลมแรงอากาศดี.... แฮะๆ.....ทรายก็ละเอียด
เนื่องจากมัวพะวงทรายจะเข้าปาก ลมจะพัดผม เราจะล้มท่าไม่สวย ไหนเนื้อตัวจะพะรุงพะรังไปหมด อูฐเจ้ากรรมก็ไม่รู้จะรีบไปไหน มันคงต้องทำเวลาให้ทันเที่ยง เราเลยไม่มีเวลาดื่มด่ำกับทะเลทรายให้สมกับที่อยากจะมาสัมผัสเต็มแก่ ล้มลุกคลุกคลานอยู่สองกิโลเมตร เขาก็ต้อนเรากลับ ได้สัมผัสแล้วสองชั่วยาม เหมือนอยู่ในทะเลทรายตลอดชีวิต ประทับใจจริงๆ
สถานที่หนึ่งที่เราคิดตามที่เขาให้คิด คือสุสานของเจงกิจข่าน ที่เราอยากบอกว่าเป็นพิพิธภัณธ์ภาพวาดประวัติของข่านผู้ยิ่งใหญ่คนนี้ เพราะเมื่อไปถึง เขาบอกว่า ไม่มีใครรู้ว่า เขาฝังเจงกิจข่านที่ไหน เราก็ว่างั้นแหละ ตั้งพันกว่าปีมาแล้ว เขาเพียงแต่อินฟอร์มเราว่า เป็นสุสานเสื้อผ้า แฮ่ะๆ เข้าใจพูด และบอกว่ามีการค้นพบว่า เจงกิจข่านมาถึงที่นี่แล้วบอกว่า นี่วิวสวย ถ้าตายแล้วให้เอามาไว้ที่นี่ แถมแถวนี้เคยเป็นสุสานของชาวมองโกล
ไม่เชื่อหรอก
แต่ก็เอาเถิด บอกแล้วว่าใช้ใจดู ถ้าเป็นเขตมองโกเลีย เจงกิจข่านกับลูกชายทั้งสี่ รวมถึงทัวหลุย อันต้าของก๋วยเจ๋ง ก็วิ่งไปวิ่งมาอยู่ทั่วทุ่งหญ้านี้แหละ อ้อ อันต้า แปลว่าเพื่อนรักที่ตายแทนกันได้ ฝากชีวิตกันได้
แต่ทุกคนก็พอใจ เพราะข้าพเจ้าเล่าประวัติศาสตร์ของเจงกิสข่านจนถึงหลาน คือกุบไบลข่านที่ก่อตั้งราชวงศ์หยวนปกครองจีน แถมยกทัพลงใต้ตีพม่า เข้าอินเดีย ตั้งราขวงศ์โมกุ ที่มาจากคำว่า มองโกล อีก
นักรบมองโกล กิน นอน และรบบนหลังม้า แถมแพร่เผ่าพันธ์ของตัวเอง แต่งงานไปทุกที จนเชื้อสายมองโกลแพร่กระจายเหมือนโรคระบาดไปทั่ว สังเกตซิว่า ถ้าเด็กเกิดใหม่มีปานดำที่ก้น หรือภาษาชาวบ้านว่า มีก้นดำน่ะ มีเชื้อสายมองโกลลอยทั้งนั้น พอโตขึ้นมันก็หายไปอย่างน่าประหลาดใจ จริงเท็จอย่างไร มิได้มั่ว ฝรั่งเขียนมาให้อ่านกันอีกที เอาเป็นว่า ของเราไม่ดำแต่กำเนิด ของคนอื่นไมรู้ลองถามอาม่าดู
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดในมองโกล ไม่ใช่เจงกีสข่าน แต่เป็นรถติดยาวเหยียดหลายสิบกิโล
แม่น้าฮวงโหช่วงที่ผ่านมองโกเลีย
นั่งกระเช้าข้ามไปอีกฝั่ง
ก่อนเข้าทะเลทราย เขาให้ใส่ถุงเท้ากันทรายสีแสบตา
มีไอ้โม่ง 1 คน เสื้อสีชมพู สตรีผู้ไม่ต้องการเปิดเผยโฉมหน้า
เวลาขึ้นเนินทรายก็ต้องลากกันขึ้นไป
ลองดูซิ ว่าทรายจะละเอียดขนาดไหน โอ้โห ยังกับแป้ง
แล้วเราก็ไปขึ้นเรือ(รถ)ล่องทะเลทราย
จากเรือก็ไปขี่อูฐต่อ
อูฐที่พี่สมพงษ์ขี่เกิดสะบัดเชือกหลุด วิ่งเตลิดไปอีกทาง พี่สมพงษ์เลยต้องกระโดดลงแล้วเดินมา
2 สาวนิรนาม กับ ปฎิมากรรมกลางทะเลทราย
นั่งพักบนรถไฟ
ที่สุสานเจงกีสข่าน ฝนตกตลอด ไม่คิดว่าจะเจอฝนในทะเลทราย
ข่านผู้ยิ่งใหญ่
เจดีย์แบบมองโกล