บทความพิเศษ

 

พิชัยสงครามกับสามก๊ก ตอนที่ ๔๘/๓ - เข้าตีเสฉวน
14 ส.ค. 2561

 

เอียวหวยจึงปรึกษากับโกภายว่า เล่าปี่เลิกทัพไปคราวนี้ ไม่ทราบว่าจะมีกลอุบายแอบแฝงอยู่หรือเปล่า โกภายก็ตอบว่าอย่าวิตกไปเลย ถึงคราวเล่าปี่จะต้องตายแล้ว ควรฉวยโอกาสฆ่าเล่าปี่ คือเราออกไปหาเล่าปี่ ทําเป็นคำนับส่งเสียตามธรรมเนียม เหน็บมีดสั้นไปด้วย พอได้ที ท่านกับข้าพเจ้าช่วยกันรุมแทงเล่าปี่ให้ตาย เสฉวนก็สิ้นศัตรู เสี้ยนหนามแผ่นดินด้วยเราทั้งสองนี้แหละ คือคิดง่าย ลืมไปว่าผู้มีวาสนาบารมีจะมาตายง่ายๆ ก็กะไรอยู่ 
 
แล้วนายทหารทั้งสองก็แต่งของกํานัลตามสมควร คุมทหาร ๒๐๐ คนออกไปคำนับเล่าปี่ เล่าปี่ก็ต้อนรับเป็นอันดี แล้วดื่มสุรากันพอเป็นพิธี เล่าปี่ก็กล่าวว่า ข้าพเจ้ามีเรื่องลับจะพูดกับท่าน แล้วให้ทหารทั้งหมดไปอยู่นอกค่าย ทันใดนั้น บังทองก็คุมทหารเข้ามาจับตัวเอียวหวยกับโกภายไว้ได้โดยละม่อม ค้นตัวได้มีดเหน็บจากอกเสื้อ เล่าปี่จึงให้เอาตัวนายทหารทั้งสองไปประหารทันที ส่วนทหาร ๒๐๐ คนที่ตามมา ยอมสวามิภักดิ์กับเล่าปี่ แถมอาสานําทัพเล่าปี่เข้ายึดด่านโปยซิก๋วนอีกด้วย ทหารซึ่งรักษาด่านไม่รู้เหตุที่เกิดขึ้นภายนอก ก็เปิดประตูด่านรับกองทัพเล่าปี่เข้ามาแต่โดยดี เป็นอันว่าเล่าปี่ยึดด่านโปยซิก๋วนได้โดยปราศจากการเสียเลือดเนื้อ ก็เลยให้เลี้ยงดูทหารทั้งปวงเป็นการใหญ่ 
 
ระหว่างการเลี้ยง เล่าปี่เมา บังทองก็เลยบอกว่า การใช้อาวุธยื้อแย่งเอาดินแดนของผู้อื่นนั้น จะถือว่าเป็นการใช้อาวุธโดยชอบธรรมหาได้ไม่ เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาสนุกสนามรื่นเริงอะไรจนเกินไป เล่าปี่ตอบว่า เมื่อครั้งพระเจ้าจิวบู้อ๋องไปตีได้ดินแดนของพระเจ้าติ๋วอ๋องนั้น จิวบู้อ๋องมีการจัดให้มีการฉลองรื่นเริงกันใหญ่โต นั่นเป็นการใช้อาวุธที่ไม่เป็นการชอบธรรมเหมือนกัน ไฉนท่านจึงมาพูดขัดคอกันในเวลานี้ด้วย  ท่านควรจะไปนอนเสียดีกว่า (นี่เอาเรื่องประวัติศาสตร์มาด่ากัน) บังทองได้ฟังก็หัวเราะ ลุกจากโต๊ะอาหารกลับไปที่พัก เล่าปี่ก็มึนมากก็เข้าไปนอน 
 
รุ่งขึ้น ทหารรับใช้บอกเล่าปี่ว่า เมื่อตอนหัวค่ํา ท่านไล่บังทองออกจากโต๊ะอาหารไป  ไม่ทราบว่าบังทองจะโกรธเคืองท่านด้วยหรือไม่ ในความเป็นจริง เล่าปี่เป็นบุคคลที่ชอบสนุกสนานร่าเริงลืมตัวอยู่บ่อยๆ ก็ด้วยอํานาจของ ๑ ๔ ๖ ก็แสดงถึงเนื้อแท้ของเล่าปี่ จริงๆ แล้ว ไม่ใช่คนเข้มแข็งอะไรแล้ว ไม่ใช่คนอ่อนน้อมถ่อมตน เวลาเมาก็เลยแสดงออกมาหมด 
 
ตอนเช้า เล่าปี่นึกขึ้นได้ เกิดความเสียใจ แต่งตัวเต็มยศแล้วมาขอโทษบังทอง ซึ่งบังทองก็บอกว่า แล้วก็แล้วกันไป บังทองไม่ได้คิดอะไร ก็สนทนากันเป็นปกติ 
 
ที่นี้ เตียวสงซึ่งเป็นคนเอาแผนที่มาให้เล่าปี่ พอทราบว่าเล่าปี่มีจดหมายถึงเล่าเจี้ยง ขอลากลับไปเกงจิ๋ว สําคัญว่าเป็นความจริงก็เสียใจ รีบเขียนจดหมายถึงเล่าปี่ ขอร้องให้เปลี่ยนความคิดแล้วให้ยกทัพเข้าตีเสฉวน ยินดีจะเป็นไส้ศึกอยู่ภายใน แต่เตียวสงพลาดท่า ถูกเล่าเจี้องจับจดหมายได้ ก็เลยเอาตัวเตียวสงกับบุตรภรรยาไปฆ่าหมด
 
เล่าเจี้ยง ทราบว่าเล่าปี่ยึดด่านโปยซิก๋วนได้แล้ว แถมยังฆ่าทหารเอกทั้งสองคนก็ตกใจ สั่งให้เหลงเปา เล่ากุ๋ย เตียวหยิม เตงเหียน คุมทหาร ๕ หมื่นไปรับเล่าปี่ที่เมืองลกเสีย ซึ่งเป็นเมืองหน้าด่านอีกเหมือนกัน 
พอนายทหารทั้งสี่คุมทัพผ่านเขากิมปินสาน เล่ากุ๋ยบอกว่า บนยอดเขามีผู้วิเศษคนหนึ่งชื่อ จีโฮเต้าหยิน ควรไปถามโชคชะตาราศีดูก่อน เตียวหยิมจึงว่า ออกรบทัพจับศึก จะต้องถามโชคชะตาราศีอะไรให้วุ่นวาย เล่ากุ๋ยก็ตอบว่า พูดอย่างนั้นก็ไม่ถูก การรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า ทําให้เราระมังระวังตัวขึ้น อะไรควรทําอะไรไม่ควรทํา ไม่เห็นจะเสียหายตรงไหนเลย ปรึกษากันแล้วก็ขึ้นไปคํานับจีโฮเต้าหยิน ขอทราบโชคชะตา
 
จีโฮเต้าหยินตอบว่า ข้าพเจ้าเป็นนักพรต ไม่รู้การทำนายโชคชะตาราศี เล่ากุ๋ยก็อ้อนวอนแล้วอ้อนวอนอีก จีโฮเต้าหยินเสียมิได้ เอาพู่กันเขียนเป็นคํากลอยยื่นให้อ่าน คํากลอนบอกว่า 
 
ด้วยมังกรลูกหงส์ส่งท้ายมา
เขาจึงฝ่าตะวันตกยกทิ้งถิ่น 
แต่ลูกหงส์จะควงร่วงลงดิน
มังกรหลับจะบินสิ้นฟ้าเอย 
 
เต้าหยินทายอนาคตของบังทองนั้นแหละ ทางตะวันตกคือเสฉวน ลูกหงส์จะควงร่วงลงดิน คือบังทอง มังกรหลับจะบินสิ้นฟ้าเอย แต่นายทหารทั้งสี่ไม่เข้าใจคำกลอนที่จีโฮเต้าหยินหยินเขียนปริศนามา ทั้งหมดก็บอกว่าไม่เห็นรู้เรื่องเลย ขอให้แปลให้หน่อย จีโฮเต้าหยินบอกว่า ใครหรือจะหนีกรรมของตนพ้น แล้วหลับตาเสีย ไม่ยอมพูดอะไรอีก 
 
นายทหารทั้งสี่ก็ไม่ได้เรื่องอะไร อุตส่าห์มาดูดวง ก็เลยลาเต้าหยิน คุมทัพรักษาเมืองลกเสีย   วางกําลังตามจุดยุทธศาสตร์อย่างเข้มแข็ง เหลงเปากับเตงเหียนรับอาสาคุมทหาร ๒ หมื่น รักษาช่องแคบระหว่างเขาซึ่งเป็นที่สําคัญที่สุด การรบคับขันกำลังจะเกิดขึ้นระหว่างเสฉวนกับเล่าปี่