บทความพิเศษ

 

พิชัยสงครามกับสามก๊ก ตอนที่ ๑๙/๑ - ลิโป้ เตียวหุย
7 ก.พ. 2559

 

 

สามก๊ก, ขงเบ้ง, เล่าปี่, กวนอู, เตียวหุย, โจโฉ, ซุนกวน, ลิโป้

 

เราลองมาดูคนอื่นบ้าง ก็จะขอกล่าวถึง "ลิโป้" ผู้ที่มีโหงวเฮ้งชนิดที่เรียกว่าหน้าหยก และมีผีมือดี แต่ความที่เป็นคนโลภ จนถึงกับถูกเตียวหุยบริภาษด่าว่าเป็นลูกสามพ่อ ( เนื่องจากลิโป้นั้นได้ทรยศกับพ่อผู้ให้กำเนิดเป็นคนแรกก่อน พ่อคนที่สองคือเต็งหงวน เจ้าเมืองเต็งจิ๋ว และพ่อคนที่สามคือตั๋งโต๊ะ) เมื่อมาวิเคราะห์ดูที่เตียวหุยและลิโป้ เป็นคู่อาฆาตนั้น ก็เนื่องจากทั้งคู่มีนิสัยคล้าย ๆ กัน คนหนึ่งหน้าหยก แต่อีกคนหนึ่งขวานผ่าซาก เมื่อครั้งเหตุการณ์ปราบลิฉุย กุยกี นั้น ลิโป้ถูกขับไล่ไปจนต้องไปขออาศัยกับอ้วนเสี้ยว ต่อมาเกิดการวิวาทกับทหารคนสนิทของอ้วนเสี้ยว จึงต้องลี้ภัยไปอยู่กับเตียวเมา เจ้าเมืองตันหลิว ซึ่งเป็นเมืองออกของเมืองกุนจิ๋วอีก

 

ต่อมา ลิโป้ได้เป็นแม่ทัพเมืองกุนจิ๋ว ทำศึกต่อสู้กับโจโฉ โจโฉสู้ไม่ได้ ด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลายอย่างทำให้ลิโป้ไม่เป็นที่ไว้วางใจของผู้ใดเลย เมื่อเล็งเห็นว่าจำเป็นต้องหาพันธมิตร จึงแต่งทูตเข้าหาเล่าปี่เพื่อขอเข้าร่วมกับเล่าปี่ ซึ่งทำให้กวนอูและเตียวหุยนั้นไม่พอใจ

 

มีเรื่องที่น่าสนใจคือ ในเรื่องสามก๊กนี้ มีคู่ของศัตรูคู่อาฆาตอยู่หลายคู่ เช่น โจโฉและอ้วนเสี้ยว สุมาอี้และขงเบ้ง เต็งงายและเกียงอุย ลิโป้และเตียวหุย ซึ่งคู่ของลิโป้และเตียวหุยนั้น มีโหงวเฮ้งที่แตกต่างกัน แต่มีนิสัยที่เหมือนกัน เรื่องเช่นนี้พบเห็นได้ในสังคมปัจจุบันอยู่ทั่วไป

 

สามก๊ก, ขงเบ้ง, เล่าปี่, กวนอู, เตียวหุย, โจโฉ, ซุนกวน

 

ลิโป้นั้นได้ชื่อว่าเป็นอัศวินพเนจร มีฝีมือกล้าแข็งมาก เป็นที่กล่าวขวัญในหมู่นักรบทั่วไป แต่ในเรื่องความคิดสติปัญญา ความประพฤตินั้น ก็มักได้รับคำประณามว่าเป็นคนโลภ เห็นแก่ลาภยศ น้ำใจไม่ซื่อตรง เป็นผู้เนรคุณ ส่วนเตียวหุยที่พี่น้องร่วมสาบานคนสุดท้ายของเล่าปี่ มีลักษณะหัวเสือ คือ มุทะลุดุดัน เก่งกล้าไม่แพ้กัน สติปัญญาก็พอกัน แต่บ้าบิ่น ทั้งสองฝ่ายมีคิ้วเข้ม ตาลึกเหมือนกัน เตียวหุย จะมีตาที่โปนกลม ส่วนตาของลิโป้จะเรียว

 

นับแต่ศึกปราบตั๋งโต๊ะนั้น ไม่ว่าลิโป้จะซมซานหนีไปพึ่งเมืองใดนั้น ก็มักจะไม่ได้รับการอุปการะอย่างจริงจัง จนกระทั่งมาถึงเมืองชีจิ๋วที่เล่าปี่ได้เป็นเจ้าครองเมืองต่อจากโตเกี๋ยม เพราะเล่าปี่ได้ช่วยโตเกี๋ยมรบกับโจโฉ เนื่องจากโตเกี๋ยมถูกกล่าวหาว่าสังหารโจโก๋ผู้เป็นบิดาของโจโฉ เมื่อลิโป้หนีมาพึ่งเมืองชีจิ๋วนั้น เล่าปี่ก็รับไว้ แต่เตียวหุยนั้นไม่พอใจ จึงกล่าวแก่เล่าปี่ว่า น้ำใจท่านนั้นอารีแก่คนทั้งปวง จะรับลิโป้เข้ามาไว้ก็ตามเถิด แต่ควรคิดระวังเหตุผลให้จงดี แต่ด้วยความเมตตา เล่าปี่ก็ได้แต่งบ้านช่องให้ลิโป้ได้อาศัยพร้อมกับครอบครัว

 

ต่อมาลิโป้ได้เชิญทั้งสามพี่น้องไปทานเลี้ยงที่บ้านใหม่เพื่อเป็นการขอบคุณ เมื่อไปถึง ลิโป้ก็นำบุตรภรรยาออกมาคำนับ เล่าปี่เห็นว่าลิโป้และภรรยาหลวง (นางหยิมซี) มีอายุมากกว่าจึงกล่าวว่า ท่านอย่าคำนับเลย ลิโป้จึงว่า น้องเราจงให้บุตรภรรยาเราคำนับเถิด เตียวหุยผู้มีกริยาโผงผาง ปากไวใจตรงก็โกรธ จึงว่า เล่าปี่นั้นเป็นเชื้อพระวงศ์ เหตุใดจึงบังอาจมาเรียกว่าน้องเรา เล่าปี่เห็นเตียวหุยโกรธก็เข้าห้ามปราม แล้วจึงพากันกลับไป

 

เมื่อทั้งหมดกลับไปได้ไม่นาน เตียวหุยก็ขี่ม้าย้อนกลับมา รำทวน อยู่หน้าบ้านลิโป้ (ผู้ที่มีความเกลียดชัง ความบุ่มบ่ามเช่นนี้จะมีลักษณะมือเท้าหยาบ) กล่าววาจาว่า เมื่อครู่นี้กูเกรงพี่กูอยู่ บัดนี้พี่กูไปแล้ว จงเร่งออกมาลองกันดูสักสามร้อยเพลงให้รู้จักฝีมือกัน ลิโป้ก็รับคำท้าแต่ยัง มิทันจะได้ออกประลองกัน กวนอูก็กลับมานำเตียวหุยกลับไปเสียก่อน

 

วันรุ่งขึ้นลิโป้จึงเข้าพบเล่าปี่ กล่าวว่า เดิมทีนั้นมาขออาศัยท่านอยู่ บัดนี้เตียวหุยน้องท่านไปกล่าวหยาบช้าดูหมิ่น อยู่สืบไปคงไม่สู้ดี จักขอลาท่านไปอยู่ที่อื่น เล่าปี่จึงแก้ว่า อันท่านจักไปอยู่ที่อื่นนั้น คนทั้งปวงจะครหานินทาได้ เตียวหุยนั้นเป็นคนใจหนุ่มได้กล่าวหยาบช้าแก่ท่านนั้น เราจะพาเตียวหุยไปขอขมาท่าน แต่หากท่านจักไปให้ได้ ก็จงไปอยู่เมืองเสียวพ่ายเถิด แต่เสียวพ่ายนั้นเป็นเมืองน้อยขึ้นแก่เมืองชีจิ๋วนี้ หากขาดข้าวปลาอาหาร เราจักนำไปให้

 

เราจะสามารถสังเกตคนที่อยู่ในสังคมทั่วไปได้ว่า คนที่มีบุคลิกและโหงวเฮ้งเหมือนเตียวหุย คือมีลักษณะหัวเสือนั้น มักบุ่มบ่ามและทำให้เสียการณ์อยู่เสมอ ทั้งเตียวหุยและลิโป้นั้นมีอายุสั้นทั้งคู่