บทความพิเศษ

 

พิชัยสงครามกับสามก๊ก ตอนที่ ๑๙/๒ - ลิโป้
7 ก.พ. 2559

 

ในที่สุด ลิโป้จึงย้ายไปอยู่เมืองเสียวพ่าย แต่ด้วยความที่ลิโป้อาจจะมีดวงที่ไม่สามารถอยู่ได้เป็นที่ เพราะเมื่อครั้นโจโฉนำพระเจ้าเหี้ยนเต้ไปตั้งราชธานีใหม่ที่เมืองฮูโต๋ ก็คิดหาทางที่จะให้เล่าปี่เป็นศัตรูกับลิโป้ จึงมีอุบายให้รับสั่งแต่งตั้งเล่าปี่เป็นเจ้าเมืองชีจิ๋วอย่างเป็นทางการ พอลิโป้รู้ข่าวก็มาเยือนเล่าปี่ที่เมืองชีจิ๋ว กล่าวแสดงความยินดี ยังมิทันขาดคำ เตียวหุยก็ถือกระบี่เข้ามาหมายจะสังหารลิโป้ เล่าปี่ตกใจลุกขึ้นหยุดกระบี่ไว้ ลิโป้ไม่เข้าใจว่าเตียวหุยมีความแค้นอย่างไร จึงได้มีใจผูกพยาบาท

 

เตียวหุยกล่าวว่า ลักษณะโหงวเฮ้งของลิโป้นั้น เป็นคนที่ไม่รู้คุณคน โจโฉจึงมีหนังสือมาถึงพี่กูให้ฆ่ามึงเสีย (ในหนังสือแต่งตั้งเล่าปี่นั้น รับสั่งให้ฆ่าลิโป้ด้วย) เล่าปี่จึงให้ทหารพาเตียวหุยออกไปภายนอก และตนเองนำลิโป้ไปไว้ภายใน แล้วจึงแสดงหนังสือของโจโฉให้ดู เล่าปี่จึงว่าลิโป้อย่าวิตกเลย ถึงแม้จะมีผู้ยุยง ตัวเล่าปี่เองนั้นก็มิได้มีจิตคิดร้าย ลิโป้จึงคลายใจ

 

โหงวเฮ้งอย่างไรที่ไม่รู้คุณคน อยากรู้ใช่ไหมคะ คือ รูปหน้าบอกไม่ได้ว่า กลม แบน เรียว ไข่ แต่เป็นลักษณะเหลี่ยมหักมุม หน้าผากเถิก แววตาลึก มีโหนกคิ้ว ปากกว้างหยัก ยิ้มลึกซึ้งไม่จริงใจ เรียกว่าปากกว้าง แต่วงยิ้มแคบ อยากรู้ว่าเป็นยังไง ลองส่องกระจก แล้วยิ้มมุมแคบ ก็จะนึกออกทันทีทันใด

 

ต่อมาไม่นาน เล่าปี่ได้รับหนังสือจากฮ่องเต้ให้ยกทัพไปตีเมืองลำหยงของอ้วนสุด จึงยกพลไปพร้อมกับกวนอู ให้เตียวหุยรักษาเมืองชีจิ๋ว และสั่งไว้ว่า ห้ามเตียวหุยเสพสุราและให้เชื่อฟังที่ปรึกษาทั้งหลาย คืนหนึ่งเตียวหุยแอบเสพสุราเมาอยู่ โจป้าพ่อตาของลิโป้ เข้ามาห้ามปรามก็เกิดโทสะ เฆี่ยนตีเสีย โจป้าแค้นใจ จึงมีหนังสือไปถึงลิโป้ แจ้งว่า บัดนี้เล่าปี่ไม่อยู่ให้เตียวหุยรักษาเมือง เตียวหุยเสพสุราเมาแล้วจับตนเฆี่ยนตี กล่าววาจาหยาบช้าถึงลิโป้ด้วย ให้ลิโป้คุมทหารยกมาตีเมืองชีจิ๋ว

 

ลิโป้จึงปรึกษาแก่ตันก๋งว่า เตียวหุยนั้นเป็นคนหยาบช้า และบัดนี้เราอยู่ที่เสียวพ่ายก็มิได้มั่นคง บัดนี้ได้โอกาสแล้ว ควรยกทัพไปจะดีกว่า จะได้คิดการใหญ่ต่อไป แล้วลิโป้จึงคุมทหาร ๕๐๐ นาย ยกไปเมืองชีจิ๋วในคืนนั้นทันที ขณะนั้น เตียวหุยเมาสุรานอนหลับอยู่ ทหารเข้ามาปลุกแจ้งว่าลิโป้ยกทัพมา ก็ตกใจคว้าทวนต่อสู้กับลิโป้ เมื่อสู้ไม่ได้จึงหนีโดยทิ้งครอบครัวของเล่าปี่ไว้ โจป้านั้นแค้นมากจึงคุมทหารหมู่หนึ่งตามไปจนทันกันที่ริมแม่น้ำ รบกันได้สามเพลงก็ถูกเตียวหุยเอาทวนแทงตกม้าตาย

 

เมื่อเล่าปี่กลับเมืองมา ลิโป้จึงกล่าวว่า ด้วยสำนึกบุญคุณของเล่าปี่ จึงได้รักษาครอบครัวของเล่าปี่ไว้ให้ และการครั้งนี้ที่ทำไปมิได้เห็นแก่สมบัติ แต่ด้วยเตียวหุยน้องท่านเสพสุรา เรากลัวทำการหยาบช้า จึงมารักษาเมืองไว้ให้ เล่าปี่กล่าวว่า เดิมทีเมืองนี้ก็ตั้งใจจะยกให้ท่านอยู่แล้ว เมื่อท่านตีได้ก็ดีแล้ว แต่นี้ไปขอท่านอยู่เป็นสุขเถิด ตัวเราจะไปอยู่เสียวพ่ายเอง

 

ลิโป้เมื่อได้เมืองชีจิ๋วก็อยู่อย่างเป็นสุข แต่หารู้ไม่ว่าบรรดาขุนนางส่วนใหญ่นั้นยังเป็นฝ่ายของเล่าปี่อยู่ บ้างก็เอาใจออกห่างไปสู่โจโฉ มิได้มีความซื่อสัตย์ ลิโป้ไม่สามารถซื้อใจใครได้

 

ต่อมาคนของลิโป้ไปซื้อม้าจากเมืองซัวตั๋งมา ๓๐๐ ตัว ผ่านมาทางเมืองเสียวพ่าย เตียวหุยก็ถือโอกาสตีชิงม้าไป ๑๕๐ ตัว ลิโป้จึงยกทหารจะไปจับเตียวหุยในฐานะผู้ร้ายลักม้า เตียวหุยไม่กลัว กล่าวยอมรับว่าตนเองชิงม้าจริง แล้วจึงว่าลิโป้จะทำอย่างไรได้ ลิโป้จึงบริภาษว่า อ้ายผู้ร้ายตากลม ทำหยาบช้าดูหมิ่นบังอาจมาท้าทาย เตียวหุยกล่าวว่า ตนชิงม้ามา ลิโป้ก็โกรธ แล้วเมื่อลิโป้ชิงเมืองชีจิ๋วจากเล่าปี่นั้น มิน่าโกรธกว่าหรือ แล้วจึงทำศึกกันได้ ๒๐๐ เพลง ( ๑ เพลงคือ ๑ กระบวน ๗๐ กระบวนท่า ใช้เวลาประมาณ ๒๐ นาที ) เล่าปี่จึงตีม้าล่อเรียกเตียวหุยกลับเข้าเมืองเพราะไม่ปรารถนาจะเป็นศัตรูกัน เมื่อเตียวหุยกลับเข้าเมือง ลิโป้ก็ล้อมเมืองเสียวพ่ายไว้ เล่าปี่จึงต้องขอขมาต่อลิโป้ ในที่สุดลิโป้ไม่เอาเรื่องเพราะเห็นแก่น้ำใจของเล่าปี่ ตันก๋งที่ปรึกษากล่าวแก่ลิโป้ว่า บัดนี้ได้ทีแล้ว ควรจะตีเล่าปี่ให้แตกพ่ายไปทีเดียว ลิโป้ก็ทำตามคำแนะนำนั้น ทำให้เล่าปี่และเตียวหุยต้องฝ่ากองทัพของลิโป้ พาครอบครัวไปพึ่งแก่โจโฉที่เมืองฮูโต๋