ความรู้เกี่ยวกับโหราศาสตร์

 

เคล็ดโหราศาสตร์กับตัวเลข ตอนที่ 2
6 ก.ย. 2553

 

เลข ๑


ยังหมายถึงราศีสิงห์ เลข ๑ หมายถึงดวงอาทิตย์ ความเป็นเอก ความเป็นหนึ่ง หมายถึงราศีสิงห์ ดังนั้นบุคลิกภาพก็จะเป็นไปตามนั้น ดังนั้นคนที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของหมายเลขหนึ่ง บางทีในดวงอาจจะไม่มีดาว ๑ เลย แต่ชื่อว่า หนึ่ง หรือสิงห์ หรือว่าเป็นคนที่ยอมคนไม่ได้ ต้องเป็นหนึ่งอยู่เสมอ ทำอะไรแล้วต้องไปอยู่ใต้บังคับบัญชาคนอื่นแล้วไม่ชอบ คนนี้จะอยู่ภายใต้อิทธิพลของเลขหนึ่งเต็ม ๆ หรือจะต้องอยู่บ้านที่โดดเด่น อาจจะเป็นคนที่ชอบเลขหนึ่ง ไม่ว่าจะทำอะไรหรือเลือกอะไรขอให้เป็นเลขหนึ่ง


เหล่านี้คืออยู่ภายใต้อิทธิพลของดาว ๑ อย่างแน่นอน แต่คนที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของเลข ๑ ถ้าเราจะคบหาสมาคมด้วยแล้วนั้น เราไม่ควรไปวิพากษ์วิจารณ์เพราะเขาจะไม่ชอบ เขาชอบที่จะได้รับการยอมรับนับถือจากคนอื่น ต้องไม่วิจารณ์และแสดงความยอมรับนับถือในตัวเขา พวกเลข ๑ จะชอบจัดระบบ ควบคุมสถานการณ์ เป็นผู้นำหน้าใหญ่ ยอมใครไม่ได้ ชอบเลี้ยง เป็นคนที่สร้างสรรค์ ต้องปล่อยให้สร้างสรรค์ไม่ควรไปขัด จะดื้อรั้นจะดื้อดึงก็ต้องปล่อย สรุปว่าเลข ๑ นี้ไม่ชอบให้ใครมาบังคับ


เลข ๒


เกี่ยวกับพระจันทร์ ราศีกรกฏ จะรักบ้าน ช่างฝัน เป็นนักจินตนาการ คนที่มีลักษณะของเลข ๒ ก็จะมีแก้มออกมากลม ๆ หรืออยู่บ้านภายใต้เลข ๒ ก็จะเป็นบ้านอุดมคติ น่าอยู่ จะไม่ค่อยเข้มแข็งและอ่อนไหวง่าย ค่อยข้างจะใจน้อยกลัวการผิดหวัง กลัวการพลัดพราก กลัวถูกทอดทิ้ง และจะเป็นลักษณะเด่นของลูกคนที่ ๒ ด้วย กลัวว้าเหว่ กลัวคนไม่รัก กลัวไปหมด แสวงหาความรักความอบอุ่น มีความไม่ค่อยมั่นคงในใจ ชอบการเดินทางท่องเที่ยว แต่จะเป็นคนประหยัด จะลงทุนในกิจการที่มีความเสี่ยงน้อยที่สุด ดังนั้นถ้าเราจะไปลงทุนด้วย ก็สามารถรู้ได้เลยว่า เขาจะต้องลงทุนน้อยที่สุด เสี่ยงน้องที่สุด เป็นคนที่เก็บความลับ (ของตัวเอง) เก่ง สรุปแล้วลักษณะเด่นก็คือ ความอ่อนโยน โรแมนติก ความไม่เสี่ยง


เลข ๓


ดาวอังคารก็จะดุดัน โผงผาง บางคนที่เกิดวันที่ ๒๑ หรือ ๑๒ ก็จะอยู่ภายใต้อิทธิพลอันนี้ด้วยเหมือนกัน หรือบ้านเลขที่ที่บวกกันและได้ ๓ ลักษณะของดาว ๓ ก็คือ จะมีความขัดแย้งกับคนอื่นโดยนิสัย คือจะต้านไว้ก่อน ถ้าจะให้เชื่อไปเลยหรือตามน้ำจะเป็นไปได้ยาก เช่นคนที่ยกมือบ่อยๆ ในห้องเรียน ขอต้าน ขอค้าน จะต้องอยู่ภายใต้อิทธิพลของเลข ๓ แน่นอน ไม่สามแพร่งก็อยู่สุดทางตัน มีความต่อต้าน ไม่เชื่อถือคนอื่นก่อน บุคลิกที่โดดเด่นก็คือต่อต้านและขัดแย้ง


กลุ่มเลข ๓ อาจจะได้ข้อมูลผิด ๆ หรือหูเบา อาชีพที่อยู่ในเลข ๓ เช่น นักมวย และตำรวจ และเลข ๓ ยังเกี่ยวพันกับความสบาย ซึ่งเกี่ยวพันกับราศีพิจิกและราศีเมษอีกด้วย คือสบายในสไตล์ของตัวเอง ดังนั้นจะชอบเก็บตัวและมีความสบาย ดังนั้นในอนาคตเลข ๓ จะทำอะไรก็ได้ ให้ตัวเองสบายพอประมาณ ไม่อยากจะร่ำรวย ไม่อยากยากจน แต่ก็จะไม่ขยันขันแข็งมากจนเกินกว่าเหตุ เป็นคนที่รักอิสระ เป็นคนจริง แต่จะเป็นคนมองโลกในแง่ดี ชอบแสวงหาความจริง คือเอาความจริงมาพูดกัน ถ้าไม่จริงก็จะแย้ง เป็นคนตรง ชอบเล่นกีฬาแต่ไม่มีเวลาจะเล่น


เลข ๔


คือ ดาว พุธ ราศีเมถุนกับราศีกันย์ อาจจะเป็นผู้หญิงสักหน่อย มีความลังเล คุณสมบัติของผู้หญิงอันหนึ่งคนมองข้าม คนมักจะมองว่าผู้หญิงจุกจิกจู้จี้ ขี้บ่นอ่อนไหว ลืมมองไปว่าเพศหญิงเป็นเพศที่อดทนที่สุด คนที่อุ้มท้อง ทำงานบ้าน ทำอะไรก็แล้วแต่ ไม่ปริปากบ่น ดูแลพ่อแม่ก็เพศหญิง ดูแลลูกก็เพศหญิง อันนี้พูดถึงความอดทน ดังนั้นความโดดเด่นของหมายเลข ๔ ก็คือความอดทน จะทำอะไรที่มีกฏเกณฑ์ของตนเองและไม่เข้ากับสังคม หรืออย่างเช่นลูกคนที่ ๔ จะนึกถึงอนาคตไม่สนใจปัจจุบัน กว้างไกล มองการณ์ไกล ความคิดอ่านล้ำยุค ราศีเมถุน คือ มองการณ์ไกล จินตนาการ


เลข ๕


จะเกี่ยวข้องกับดาวพฤหัส ราศีธนู และส่งกระแสไปยังราศีมีนอีกด้วย หมายเลข ๕ จะเป็นตัวแทนของปัญญาชน เพราะหมายเลข ๕ จะหมายถึงนักคิด นักปรัญชา แต่ว่ามีความโดดเด่นอยู่อย่างหนึ่งก็คือ ความซื่อ (จนเซ่อ) ซื่อและยึดติดกับความเซ่อและความดีอันนั้น จนยึดมั่นถือมั่น เลยกลายเป็นเซ่อและไม่ทันคนอื่น เพราะฉะนั้นเลข ๕ นี้จะหนักกว่าเลข ๕ ในดวงชะตาหรือในราศี อาจจะมีตัวอื่นมาคานกันทำให้เกิดความพอดี แต่ถ้าเลข ๕ อย่างเดียว จะหมายถึงการยึดมั่นถือมั่น ซื่อจนเป็นเซ่อ ดีจนเป็นคนที่หลอกง่ายเกินไป คือมากจนเกินความพอดี ถ้ายึดมั่นจนเกินไปอาจจะเสียรู้คน และเป็นคนแคบไม่รู้โลกกว้าง ไม่ทันคนอื่น และไม่ชอบอยู่ประจำที่ เบื่อหน่ายความซ้ำซากจำเจ ชอบเที่ยว คือชอบเปลี่ยนบรรยากาศ นั่นก็มีลักษณะของความเป็นธาตุไฟที่แท้จริง ที่อยู่เป็นที่ไม่ได้ เพราะความหมายของราศีธนูก็คือราศีธาตุไฟ ปลายธาตุ ไม่ใช่ไฟใช้งานอย่างราศีสิงห์
เลข ๖


ดาวศุกร์ ปกติก็ดีอยู่แล้ว แสดงถึงความอ่อนหวานในลักษณะของสตรี ใจอ่อน เห็นอกเห็นใจคนอื่น หมายถึงตัวเงิน เพราะฉะนั้นจะกลายเป็นในลักษณะของเห็นแก่เงินก็ได้ จะใจอ่อน เมตตา ขี้สงสาร แต่งกเงินไว้ก่อน ถ้าหมายถึงความรัก ก็จะหมายถึงความรักที่หึงหวงค่อนข้างรุนแรง ถ้าเป็นอารมณ์ขันก็จะเป็นอารมณ์ขันที่ฟุ่มเฟื่อย มองอะไรไปในแง่ขบขัน ตลก ล้อเลียนไปหมด ยิ้มง่าย หัวเราะง่าย ผูกมิตรกับคนทั่วไปหมด เหล่านี้คืออิทธิพลของเลข ๖ หรือรถยนต์ที่ลงท้ายด้วยเลข ๖ จะเป็นคนยิ้มง่าย งกเล็กน้อย และหึงหวง แต่ว่าเงินทองจะไหลมาเทมาสำหรับผู้ที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของเลข ๖ และชอบความงาม สงบ รักธรรมชาติ พักผ่อนในชนบทที่เงียบสงบ ฟังเสียงคลื่น เสียงลม อาจจะดูถูกคนจนเล็กน้อย เพราะเลข ๖ หมายถึงเงิน โอ่อ่าโอ่โถง สะดวกสบาย ฟุ่มเฟื่อยก็ฟุ่มเฟื่อยจริงๆ มีรสนิยม


เลข ๗


ปกติ พอพูดถึงหมายเลข ๗ ก็จะกลัวกันเพราะเป็นดาวเสาร์ แต่ว่าเลข ๗ แท้ ๆ จะเป็นสภาวะทางจิตที่มีความอดทน มีตบะ มีความหนักแน่น ข้อสำคัญคือมีนิมิต ฝันแม่น แต่จะไม่รวมอาชีพ อย่างเช่น อาชีพกรรมกรเป็นดาว (๗) ไม่เกี่ยวข้องแต่เป็นเรื่องของดวงดาว หมายถึงตัวเลข ๗ แท้ๆเลย เช่น เกิดวันที่ ๗ หรือรถรวมกันได้ ๗ คนเหล่านี้จะฝันแม่น เกี่ยวกับจิตวิญญาณ เกี่ยวกับพลังในตัว ความอดทน ความมีตบะ ความอดทน ความหนักแน่น ความมีอำนาจ เพราะฉะนั้นอย่าไปคิดว่าเลข ๗ จะต้องทำงานหนักเสมอไป แต่จะเป็นคนที่ไว้ใจคนยาก


เลข ๘


คนจีนถือว่าเลข ๘ เป็นเลขนำโชค หมายถึงมั่งคั่ง มั่นคง เลข ๘ จะหมายถึงการพูดน้อย เก็บตัว ขี้อาย ไม่เร่งร้อน ถ้าเป็นคนที่ไม่เก็บตัวและไปอยู่บ้านเลขที่ ๘ ก็จะขัดกัน จะเป็นคนทำอะไรเรื่อยๆ ไม่เร่งร้อน ทำอะไรช้า ๆ ได้พร้าเล่มงาม เป็นคนที่ขี้อาย เคร่งขรึม แต่ไม่ได้หมายถึงความล้มเหลวของชีวิต แต่หมายถึงการค่อยๆ ไป ดังนั้นคนที่อยู่ภายใต้เลข ๘ จะมีข้อดี ถ้าหากว่าได้เป็นครู ได้เป็นที่ปรึกษาที่ดี หรือว่าเป็นคนที่ไม่ทะเยอทะยาน ไม่เอาผลประโยชน์จากคนอื่น ใจเย็นสุขุม ค่อยคิดค่อยทำ จนดูเหมือนเรื่อย ๆ เฉื่อย ๆ กับชีวิต แต่ก็มีข้อเสียคือ สุขภาพจะไม่ค่อยแข็งแรง แต่อายุยืน และมีอารมณ์ขันลึก ๆ ซึ่งจะต่างกับเลข ๖ คือเลข ๖ จะมีอารมณ์ขัน พูดตลกให้คนอื่นขำ


แต่เลข ๘ จะเป็นอารมณ์ขันลึก ๆ มองคนในแง่ดีและรื่นรมย์ แต่บุคคลหมายเลข ๘ ก็จะมีข้อเสียลึก ๆ คือชอบผลัดวันประกันพรุ่ง จะมีความเชื่อฝังใจ เมื่อเชื่ออะไรแล้วก็จะเชื่ออย่างนั้น ฟังคนใดพูดให้ฟังเป็นคนแรกก็จะเชื่อคนนั้น รักชอบใครก็รักคนนั้น ยึดติดมากกว่าเลข ๕ เสียอีก ยึดติดในความเชื่อและฝังหัว และไม่ยอมถอนหรือเปลี่ยนใจในสิ่งนั้น ๆ และจะเชื่อในสิ่งที่แตกต่างไปจากคนอื่น กลุ่มเลข ๘ จะชอบมีความสุขในชีวิต สบาย ๆ ในชีวิตไปเรื่อย ๆ อะไรที่เป็นความทุกข์ จะออกห่างไปก่อน บุคคลที่อยู่บ้านเลขที่ ที่บวกรวมกันได้เลข ๘ นั้นก็จะเป็นดังนี้


แต่ก่อนที่จะบวกเลขก็ต้องดูว่ามีเลขใดที่บวกรวมกันได้เลข ๘ นั้นก็จะต้องนำทายเป็นองค์ประกอบด้วย ก็จะได้รายละเอียดมากขึ้น อย่างเช่นเลข ๒ กับเลข ๖ รวมกันได้เลข ๘ ก็ต้องนำเอาเลข ๒ และเลข ๖ มาทายด้วย
เลข ๙


จะเป็นการเสริมเน้น บุคลิกภาพที่โดดเด่นกว่าคนอื่น แตกต่างจากคนอื่น มีอะไรที่ไม่เหมือนคนอื่น ความคิดไม่เหมือนคนอื่น ยกตัวอย่างเช่น มีคน ๓ คนที่คบกับคนที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของเลข ๙ หรือคนชื่อเกตุ ก็จะมองคนที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของเลข ๙ ต่างกันไป เพราะฉะนั้นคน ๓ คนที่มาคุยกับคนที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของเลข ๙ จะมองคนที่เป็นหมายเลข ๙ ต่างกัน เนื่องจากว่าคนที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของเลข ๙ จะดูคน จะดูว่ากับคนนี้ควรปฏิบัติอย่างไร กับอีกคนควรจะทำอย่างไร ดังนั้น ๓ คนที่มาคุยกับคนที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของเลข ๙ นั้นจะได้ความรู้สึกที่ไม่เหมือนกัน


เหล่านี้คือความโดดเด่นของคนที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของเลข ๙ แต่ข้อสำคัญคือ เป็นคนที่ถ้าชอบที่จะทำสิ่งใดแล้วก็จะทำสิ่งนั้นให้ถึงแก่น คือจะหมกหมุ่นอยู่กับสิ่งเหล่านั้นโดยไม่สนใจเรื่องอื่นเลย หรือบางทีถ้าต้องการที่จะรู้เรื่องใดก็จะรวบรวมข้อมูล หรือหลักฐานมาวิเคราะห์ และในระหว่างที่ต้องการจะรู้เรื่องนั้น ๆ ก็จะไม่สนใจเรื่องอื่นๆ เลย ใจร้อนแต่จะตรงประเด็นไม่อ้อมค้อม จะใช้ชีวิต จิต และวิญญาณทำงานมากกว่าใช้เหตุผล จะใช้ความตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อม สามารถที่จะระมัดระวังอารมณ์ได้รวดเร็ว หลังจากที่แสดงอารมณ์ได้ถึงที่สุดแล้วจะระงับอารมณ์ได้ทันที จะเป็นคนที่ปุบปับมี ๒ ด้านในขณะเดียวกัน


เราจะมีความนิยมในเลข ๙ กันมาก เลข ๙ จะเป็นความแตกต่างของอารมณ์ ทำอะไรก็จะใช้ด้านจิตใจมากกว่า คนที่จะใช้เลข ๙ ได้ดี จะต้องเป็นคนที่นิสัยค่อนข้างเด็ดเดี่ยว อยู่สูงกว่าคนอื่น สามารถปรับตัวเข้าได้กับทุกทาง ทุกทิศ และทำสิ่งใดก็จะตั้งใจทำในสิ่งเหล่านั้น คือเป็นผู้นำคน


เมื่อ เราราบคร่าว ๆ แล้วก็จะมีเทคนิค เรียกว่าลูกเล่นในลักษณะตัวเลขที่รวมกันคือบวกกันให้เป็นเลขตัวเดียว และก่อนที่จะรวมตัวเลขเหล่านั้น ก็จะเป็นดาว สองดวง ตัวเลขสองตัวเราก็จะทายตัวเลขเหล่านั้นประกอบกัน ถ้าเป็นเลข ๓ ตัว อย่างเช่น ๑๖๐ ก็จะต้องทาย ๑๖ ก่อน และค่อยทาย ๗ ถ้าจะทายกันจริง ๆ แล้วจะทายกันตามดวงดาว บ้านลักษณะตามดวงดาว ตามทางโหราศาสตร์ก็จะเป็นอีกอย่างหนึ่ง คนละอย่างกัน นักโหราศาสตร์ทั้งหลายได้ฟังลูกเล่นของโหรฯ แล้วสามารถนำไปเล่นกันได้ เป็นเพียงแต่ลูกเล่นเท่านั้นแต่ไม่ใช่เป็นวิชาที่ใช้ในการทำนายจริง ๆ จัง ๆ