สาระจากเมืองมังกร

 

สาระจากเมืองมังกร ตอนที่ 58 บั้นปลายของหญิงงาม โดย อาจารย์แอน
3 ม.ค. 2557

 

สรุปบทความจากรายการ

 "สาระจากเมืองมังกร ตอนที่ 58บั้นปลายของหญิงงาม"

ออกอากาศทาง TNN2 Truevision ช่อง 8ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 20.20 - 20.30น.
 

 หวังเจาจวิน, ไซซี, 4 หญิงงาม, เหมาเหยินโซ่, ซุงหนู

 

                เรื่องราวของหวังเจาจวินยังไม่จบ เพราะประวัตินั้นเริ่มตั้งแต่เข้าวังเป็นพระสนมแต่ไม่เคยได้พบกับฮ่องเต้เลย การที่จัดหวังเจาจวินให้อยู่ใน 4หญิงงามในประวัติศาสตร์นั้น ด้วยเหตุที่ว่า แม้คนสวยคนงามมีมากมาย แล้วการจะเป็นฮองเฮาหรือสนมก็ต้องงามที่สุดอยู่แล้ว แต่การที่จัดอยู่ในหญิงงามในประวัติศาสตร์ได้ ก็เพราะงามอย่างมีคุณค่า มีประโยชน์แก่ประเทศชาติและส่วนรวม แก่คนทั้งหลาย สามารถรักษาชีวิตคนเป็นล้านๆ คน เพราะเป็นการระงับสงคราม ส่วนไซซีนั้นด้วยความงามทำให้ชาติหนึ่งล่มสลายและสามารถกู้ชาติบ้านเมืองของตนเองได้ จึงได้ชื่อว่าเป็น 1 ในหญิงงามเช่นกัน
 

 หวังเจาจวิน, ไซซี, 4 หญิงงาม, เหมาเหยินโซ่, ซุงหนู
 

หวังเจาจวินเป็นลูกชาวบ้านที่ถูกคัดตัวเข้าวัง แต่เนื่องจากไม่นิยมการจ่ายสินบนเพื่อให้ตนมีโอกาสเข้าพบกับฮ่องเต้ ก็เลยถูกเหมาเหยินโซ่ ขุนนางผู้คัดเลือกสนม กีดกันไม่ให้พบกับฮ่องเต้ ก็เป็นสนมอยู่เดียวดายมาเป็นเวลาหลายปีเลยทีเดียว จนกระทั่งวันหนึ่งต้องหาอาสาสมัคร ออกไปแต่งงานเชื่อมสัมพันธไมตรียังต่างแคว้นแดนไกล เพราะว่าเชื้อพระวงศ์ สนม นางในไม่มีใครสมัครใจไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสมัยนั้นการเดินทางยากลำบาก การไปอาศัยอยู่ในทุ่งหญ้า การเดินทางไปไหนมาไหนต้องใช้ม้า ต้องรับประทานอาหารดิบ เป็นเรื่องที่ชาววังคงทนไม่ได้ หวังเจาจวินเห็นชีวิตตนเองตอนนั้นไม่ได้ทำคุณประโยชน์ใดๆ เลย จึงอาสา ทันทีที่ฮ่องเต้ได้เห็นหน้าหวังเจาจวิน ก็เห็นว่าหวังเจาจวินเป็นหญิงงามคนหนึ่งเลยทีเดียว นอกจะงามกายแล้วยังงามใจ เพราะทำเพื่อชาติอีกด้วย เมื่อทราบเรื่องราวทั้งหมดว่า เหตุที่ไม่ได้ถวายตัว เพราะถูกเหมาเหยินโซ่กลั่นแกล้ง จึงให้ประหารขุนนางกังฉินแต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ จำต้องส่งหวังเจาจวินไป
 

 หวังเจาจวิน, ไซซี, 4 หญิงงาม, เหมาเหยินโซ่, ซุงหนู
 

เมื่อไปอยู่แดนไกล หวังเจาจวินพยายามปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมและอดทนต่อความยากลำบากทั้งหมด ยอมรับในประเพณีของเผ่า เรียกว่า ก้มหน้าก้มตารับกรรมก็ว่าได้ แต่ว่ามีประโยคหนึ่งที่พูดกับพวกซุงหนูว่า อย่าได้รุกรานชาวฮั่นเลย เพราะประชากรของชาวฮั่นทั้งประเทศมีเป็นล้านๆ ในขณะที่เผ่าซุงหนู มีประชากรเพียงเล็กน้อย หากครอบครองดินแดนนี้ได้ ก็อย่าหวังว่าจะสามารถปกครองได้ยืนยาวนาน และอาจจะไม่สามารถรักษาเผ่าพันธ์ของตนไว้ได้ เพราะจะถูกกลืนชาติ ด้วยประโยคอันชาญฉลาดนี้เอง ที่ทำให้ซุงหนูไม่รุกรานแผ่นดินฮั่นอีกเลย และเป็นประโยคที่ถูกบันทึกในประวัติศาสตร์ ต่อมาภายหลังเมื่อชาวต่างชาติเข้ามาครอบครอง ก็คือ ราชวงศ์ของมองโกล จึงได้แบ่งชนชั้นวรรณะ ด้วยการไม่ให้ชาวมองโกลแต่งงานกับชาวจีนด้วยกลัวถูกกลืน แต่ก็ยังไม่สามารถครอบครองประเทศจีนทั้งหมดได้นานอยู่ดี ตามประวัติศาสตร์จีนมีอยู่เพียงสองราชวงศ์เท่านั้น ที่เป็นชนนอกด่านเข้ามาปกครองประเทศจีน

 

 หวังเจาจวิน, ไซซี, 4 หญิงงาม, เหมาเหยินโซ่, ซุงหนู

 

หวังเจาจวินต้องใช้ชีวิตอยู่ที่นอกด่าน แต่งงานกับพ่อแล้วก็มาแต่งงานกับลูกเลี้ยง แต่ว่าหวังเจาจวินใช้ชีวิตที่มีคุณค่า ด้วยพื้นนิสัยทำตนให้เป็นประโยชน์ต่อชาวเมือง สอนให้คนรู้จักหุงต้ม หาอาหาร หวังเจาจวินเป็นที่รักของชนเผ่าซุงหนูเป็นอย่างยิ่ง เมื่อหวังเจาจวินสิ้นพระชนม์ก็มีการสร้างอนุสาวรีย์ เป็นที่ระลึกถึงคุณงามความดีของหญิงชาวฮั่นผู้สูงศักดิ์ ที่มาบำเพ็ญความดีในต่างแดน เป็นแบบอย่างให้กับองค์หญิงเหวินเฉิงแห่งราชวงศ์ถัง ที่ต้องแต่งงานไปยังแคว้นแดนไกลในเวลาต่อมา