เกร็ดความรู้จากพุทธศาสนา

 

ผู้ขอไม่เป็นที่รักของผู้ถูกขอ ตอนที่ ๒
17 ก.พ. 2560

 

พญานาคหนีคนขอ

 

ฤาษีสองพี่น้อง ตั้งสำนักอาศรมบำเพ็ญพรตอยู่ริมฝั่งแม่น้ำคงคาคนละแห่ง พญานาคชื่อ มณีกัณฐ์ ตนหนึ่ง มีความเอ็นดูฤาษีองค์น้อง จึงขึ้นจากน้ำมาหาทุกวัน มาแล้วก็มาหยอกเล่นด้วย โดยเอาลำตัวพันรอบๆ ฤาษีผู้น้อง ๗ รอบ ฤาษีผู้น้องมีความหวาดกลัวจนซูบผอม ผิวเหลืองคล้ำ มีแต่หนังหุ้มกระดูก

 

ฤาษีพี่ชายเห็นน้องมีอาการเช่นนั้น สอบถามก็ได้ความว่ากลัวพญานาค จึงบอกอุบายว่า ถ้าน้องไม่อยากให้พญานาคมาอีก จงขอแก้วมณีที่คอพญานาคเถิด ถ้าวันต่อมายังมาอีก ก็ให้ขออีก คือให้ขอทุกครั้งที่พบกัน

 

เข้าทำนอง ถ้าเราไม่อยากจะคบใคร ก็ให้ไปยืมเงินเขา จริงไหมคะ

 

วันต่อมา พญานาคมณีกัณฐ์ ก็มาหาตามเคย พอนาคเข้ามาถึงที่อยู่ ฤาษีก็ออกปากขอแก้วมณีทันที

 

พญานาคใจหายวูบ ความรักใคร่เอ็นดูที่มีต่อฤาษีลดลงไปทันที พลางคิดว่า ก็ที่เรามีอำนาจถึงปานนี้ก็เพราะมีแก้วมณีดวงนี้ เราจึงรักและหวงแหนแก้วมณีดวงนี้ยิ่งนัก จึงรีบกลับไปทันที

 

วันต่อมา พญานาคก็มาอีก พอใกล้จะมาถึง ฤาษีก็ร้องขอแก้วมณีอีก นาคก็เลยหันหลังกลับลงน้ำไปอีก

 

วันที่สามก็เป็นเช่นเดียวกัน คราวนี้นาคถึงกับเปล่งวาจาว่า

 

“อาหารของเรา เกิดจากการบันดาลของแก้วดวงนี้ ข้าพเจ้าจะให้แก้วดวงนี้แก่ท่านได้อย่างไร ท่านเป็นคนขอจัด เราจะไม่มาหาท่านอีกต่อไปแล้ว”

 

ฤาษีผู้พี่จึงกล่าวคาถาตอนท้ายเรื่องว่า

 

“ถ้ารู้ว่าสิ่งใดเป็นที่รักของเขา  ไม่ควรขอสิ่งนั้น และคนย่อมเป็นที่เกลียดชังเพราะขอจัด”

 

 

นกกลัวคนขอ

 

ภิกษุรูปหนึ่ง ท่านบำเพ็ญเพียรอยู่ในป่าแถบภูเขาหิมพานต์ ใกล้ที่สำนักของพระนั้น มีหนองน้ำใหญ่ นกฝูงใหญ่มาอาศัยกินน้ำนั้น แล้วก็เลยพักอยู่ในป่าใกล้สำนักของภิกษุนั้น

 

พระมีความรำคาญด้วยเสียงนกเหล่านั้น เมื่อเข้าไปเฝ้า พระพุทธเจ้าทรงถามถึงความผาสุกในการบำเพ็ญเพียรในป่า พระรูปนั้นกราบทูลว่า

 

“ข้าพระพุทธเจ้ารำคาญเสียงนก จึงหนีจากป่านั้นมาพระพุทธเจ้าข้า”

 

พระพุทธองค์จึงตรัสสอนว่า

 

เมื่อนกเหล่านั้นเข้านอนในป่าเรียบร้อยแล้ว ตอนหัวค่ำ เธอจงร้องดังๆ ว่า “นกทั้งหลายจงฟังเรา นกที่อยู่ในบริเวณนี้ทั้งหมด จงให้ขนแก่เราตัวละหนึ่งขน” ประกาศ ๓ ครั้ง พอเวลาดึกสองยาม เธอก็ไปประกาศดังๆ เช่นเดียวกันอีก ๓ ครั้ง และเวลาใกล้รุ่ง ให้เธอไปประกาศอย่างนี้อีก ๓ ครั้ง

 

เมื่อพระภิกษุนั้นเข้าป่า และปฎิบัติตามที่พระพุทธองค์ทรงแนะนำ พวกนกเหล่านั้นรู้ว่าพระต้องการขนของเรา และร้องขอขนของเราอยู่ทั้งคืน จึงได้พร้อมใจกันบินหนีออกไปจากป่านั้น ไม่กลับมาอีกเลย

 

จากตัวอย่างหลายเรื่องที่กล่าวมาแล้ว คงทำให้เรามีความเข้าใจในสิ่งที่พระพุทธองค์ทรงสอนอย่างชัดเจนนะคะ พระพุทธองค์ทรงสรรเสริญผู้ให้ทาน แต่ทรงตำหนิการขอ ถ้าหากเราจะเป็นพุทธศาสนิกชนที่ดี พึงบริจาคทาน เป็นการสะสมบารมีที่จะตัดความตระหนี่เป็นเบื้องต้น และตัดกิเลสในเบื้องปลาย

 

สลัดการ “ขอ” ที่เป็นการสะสมความโลภเป็นเบื้องต้น และพอกพูนกิเลสให้หนาแน่นขึ้นในเบื้องปลายนะคะ