คำคม..ข้อคิด

 

คำคม..ข้อคิด ๒๑
19 พ.ย. 2560

 

การทำงานร่วมกันในหนึ่งองค์กร แม้ระบบฝรั่งจะเข้ามาทำให้องค์กรนั้นๆเป็นที่ยอมรับหรือมีความเจริญตามที่เชื่อถือกัน แต่ต้องไม่ลืมระบบดั้งเดิมที่มาตามสายอารยะธรรมและประเพณีดั้งเดิม คือ ระบบอาวุโส 

 

ถ้าเราเป็นผู้น้อยต้องก้มประนมกร จะนายกี่คนก็ต้องเรียงลำดับในการให้ความเคารพ จะผิดจะถูกอย่างไร ก็เกิดก่อนเรา เห็นมากกว่าเรา

 

ถ้าเราเป็นผู้ใหญ่จะก้าวหน้าไปไม่ได้ถ้าปราศจากความเป็นผู้น้อยที่ดีมาก่อน การเรียงลำดับที่ดีต้องเริ่มจากชีวิตประจำวัน การปฏิบัติตัว อย่าทำดีหรือขยันต่อหน้า เพราะผลจะออกมาฟ้องตนเองและเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีต่อผู้น้อย

 

ปัญหาในองค์กรที่มีอยู่คือต่างฝ่ายต่างไม่ทำหน้าที่ของตัวให้ดีที่สุด ไม่รู้หน้าที่ที่ควรทำและไม่เคารพซึ่งกันและกัน ทำงานตามระบบฝรั่ง ดูถูกระบบญาติ คือขาดความสัมพันธ์ในองค์กร ลูกและศิษย์ของอาจารย์พึงพิจารณาความให้ดีเพื่อแก้ไขปัญหาในงาน จะได้มีความสุขในการทำงานกันทุกคนค่ะ

 

คำคมข้อคิด, ธรรมะในชีวิตประจำวัน

 

บางครั้ง ความทุกข์ ความกระวนกระวายใจ มันเกิดจากใจ และวิธีคิดของเราเอง สังเกตได้ค่ะว่า คำถามที่เข้ามาส่วนใหญ่มักเป็นเรื่องของความสงสัย ว่าสิ่งที่มีอยู่เป็นอยู่และทำอยู่ ตลอดจนคิดอยู่นั้นถูกต้องหรือไม่ อันความทุกข์ใจที่ไม่ได้ดังใจที่เราปราถนา เป็นสิ่งที่มีอยู่ดำรงอยู่แล้วในโลก พระบรมศาสดาจึงตรัสบรรเทาทุกข์ให้สรรพสัตว์ทั้งหลาย ให้รู้จักเป็นสุขและพอใจในสิ่งที่เรามีอยู่ อย่าเปรียบเทียบ และต้องรู้จักแบ่งปัน ทั้งไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่นให้เดือดร้อน ทั้งในปัจจุบัน และอนาคต
 

ถ้าเรามีคำว่า อยากให้ผู้อื่นเป็นดังที่เราปราถนาทุกประการ นั้นคงจะยาก เพราะเราเองก็ไม่ได้เป็นดังที่ผู้อื่นปราถนาเช่นกัน เราจึงควรคบบัณฑิต ห่างไกลคนพาล ซึ่งวัดกันที่การใช้สติ เหตุและผล ในการดำรงชีวิตค่ะ

 
 
ลองนั่งย้อนคิดว่า
 
วันนี้กับวันเก่าๆ วันไหนดีกว่ากัน ถ้าคำตอบว่าวันนี้ แสดงว่า เราเจริญขึ้น ดวงดี บั้นปลายดี ให้รักษา สิ่งเดิมๆที่ทำให้เจริญมาโดยลำดับ
 
คนที่เราคบวันนี้ กับคนเก่าๆอันไหนทำให้เราดีกว่า เลือกได้เลยวันนี้ ว่าเพื่อนแบบไหนที่ดีสำหรับเรา
 
อาชีพวันนี้ กับสิ่งที่เราเคยทำ อันไหนดีกว่ากัน เราควรกลับไปทำอย่างเดิมแต่ปรับให้ดีกว่าเดิมตามกาลสมัย
 
สังคมไหนที่แม้เราทำตัวให้กลมกลืนก็ยังรับเราไม่ได้ และสังคมไหน เราเป็นอย่างไรเขาก็รับเรา
 
ถ้าหมั่นพิจารณาอย่างนี้ นอกจากจะได้ทำความรู้จักตัวเองและคนรอบข้างแล้ว ยังรู้จักหลีกเลี่ยงเพื่อได้สิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเองอย่างมีสติ
 
คนเรารู้ผิดที่คนนินทา รู้ถูกที่คนสรรเสริญ รู้ทุกข์และสุขด้วยใจเราเอง 
 
ทั้งหมดนี้คือการดำเนินชีวิตอยู่ในอิทธิบาทสี่ ข้อที่สามและสี่ คือใส่ใจ และพิจารณาใคร่ครวญให้ดียิ่งขึ้นไปค่ะ
 
 
การทำงานร่วมกันหรือเป็นหุ้นส่วนนั้น ถ้าหากเราต้องการความเป็นไปและความสัมพันธ์ที่ยาวนาน ต้องเรียนรู้นิสัยใจคอ ความประพฤติและการกระทำ และต้องยอมรับ พร้อมทั้งถอยตัวเองหนึ่งก้าว เพราะการเป็นหุ้นส่วนหรือร่วมการทำงาน ไม่ใช่เพียง "คนละส่วน คนละครึ่ง"ของการลงทุนและผลประโยชน์ แต่เป็นเรื่องของ นิสัย ความประพฤติ รวมถึงอารมณ์ที่เรียกว่า ลงใจคนละครึ่งด้วย
 
หากเราลืมที่จะคำนึงถึงส่วนที่สำคัญที่สุดนี้ ความเป็นหุ้นส่วน ร่วมงาน หรือแม้แต่ร่วมชีวิต ก็จะไม่ยาวนาน ทั้งนี้ ต้องอยู่ภายใต้ คำว่า ซื่อสัตย์ และความซื่อตรงด้วย
 
ถ้าเข้าใจถึงเหตุแล้ว ปัญหาของการร่วมงานทั้งหมด ก็จะหมดไปค่ะ