บทความพิเศษ

 

พิชัยสงครามกับสามก๊ก ตอนที่ ๓๕/๒ - กังตั๋งรบกับโจโฉ
31 มี.ค. 2561

 

รุ่งขึ้นจิวยี่ไปค่ายทหารแต่เช้า เรียกประชุมนายทหารทั้งปวงตามนัด คนจะยิ่งใหญ่ได้ต้องตื่นแต่เช้าเขาไม่ตื่นสาย  บูซูเข้าประจำการขวาซ้ายตามหน้าที่ นายทหารทั้งปวงมาประชุมพร้อมกันหมด ขาดแต่เทียเภารองแม่ทัพคนเดียว ซึ่งน้อยใจว่ามีอาวุธโสสูงกว่าจิวยี่ กลับได้รับตำแหน่งเป็นรองแม่ทัพ เทียเภาจึงให้เทียจู๋ผู้เป็นบุตรมาแทน แจ้งจิวยี่ว่าป่วยอยู่ 
 
จิวยี่ก็ประกาศว่า บทพระอัยการศึกก็ต้องเป็นกฎหมายสูงสุด ในยามนี้ ท่านทั้งหลายจะต้องปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งอย่างอย่างเคร่งครัด จำไว้ว่าโจโฉเป็นเผด็จการยิ่งกว่าตั๋งโต๊ะ พระเจ้าเหี้ยนเต้เวลานี้ เหมือนนักโทษอยู่ในวังหลวง เราได้รับคำสั่งให้ทำลายโจโฉให้จงได้  ด้วยความพร้อมใจของท่านทั้งหลาย กองทัพของเราจะได้เคลื่อนออกปฎิบัติการแล้ว กองทัพเราไปทางไหน ขอให้ประชาชนที่นั่นมีความยินดีต้อนรับ อย่ารังแกหรือทำความเดือดร้อนให้กับประชาชนเป็นอันขาด ผู้ใดมีความชอบจะได้ปูนบำเหน็จรางวัล ผู้ทำชั่วจะถูกทำโทษสถานหนักเสมอกันทุกคน หลังจากนั้น จิวยี่ก็สั่งจัดขบวนทัพตามตำราพิชัยสงครามทั้งทางบกและทางเรือ  
 
เทียจู๋รีบนำความไปแจ้งเทียเภาผู้บิดา  เทียเภาเห็นจิวยี่จัดขบวนทัพได้ถูกต้องตามตำรากับประหลาดใจ พ่อดูถูกจิวยี่ว่าเป็นเด็กไม่ประสาอะไรกับการสงคราม แต่ว่าการจัดทัพได้อย่างนี้สมควรจะเป็นแม่ทัพใหญ่ได้  พ่อจะต้องช่วยจิวยี่ได้อย่างเต็มที่  เทียเภาก็เข้าไปหาจิวยี่ในกองบัญชาการแล้วขอขมาที่ได้มีทิฐิมานะ  จิวยี่กับหัวเราะอย่างภูมิใจมาก  จิวยี่มีดาวอาทิตย์นำอยู่แล้ว  เมื่อเทียเภาเข้ามาแบบนี้ไม่ถือสาหาความ  กลับเชิญเทียเภาเข้าประจำการตำแหน่งหน้าที่เหมือนเดิม  เป็นอันว่าพร้อมรบ  
 
จิวยี่ยังนึกถึงแผนของโลซก จึงให้ไปเชิญจูกัดกิ๋นมาแล้วบอกว่า ขงเบ้งน้องชายท่านมีสติปัญญาที่จะเป็นที่ปรึกษาของพระมหากษัตริย์ เหตุใดหนอ จึงไปฝากตัวอยู่กับเล่าปี่ไม่สมควรเลย เวลานี้ขงเบ้งมาอยู่กับเราที่นี่แล้ว ท่านควรไปเกลี้ยกล่อมให้ขงเบ้งรับราชการกับซุนกวน นายของเราจะได้ทำการใหญ่สืบต่อไป ตัวท่านกับน้องท่านจะได้เห็นหน้ากันเป็นสุขเป็นครอบครัว 
 
จูกัดกิ๋นรีบรับอาสาขึ้นมาหาขงเบ้ง  ประโยคแรก ขงเบ้งมองออกทันทีว่าพี่ชายเป็นหน้าม้ามาเกลี้ยกล่อม  ตอนนี้ต้องชิงไหวชิงพริบกันแล้ว  ก็เลยตอบไปคำเดียวเลยว่า นิยายโบราณเรื่องนี้จำได้อยู่ จูกัดกิ๋นก็แปลกใจนิยายเรื่องอะไร  นิยายเรื่องแปะอี้  ซกแจ๋ สองพี่น้องไง  พี่เคยเล่าให้ฟังมิใช่หรือ ทั้งสองไม่เคยแยกจากกันตลอดชีวิต  จูกัดกิ๋นก็เลยพูดต่อไปว่า สองพี่น้องนั้นแม้ว่าจะอดตายด้วยความหิวที่ใกล้เขาซัวหยัง ก็ไม่ยอมแยกจากกัน  ตัวน้องพี่เกิดร่วมท้องร่วมนมแม่มาด้วยกัน  แล้วกลับแยกรับราชการต่างแผ่นดิน  น้องไม่อายแปะอี้กับซกแจ๋เลยหรือ  ขงเบ้งก็เลยพูดว่า ความรักนี้เป็นความรักระหว่างญาติ  แต่ที่ตัวน้องมากังตั๋งนี้ ด้วยภารกิจของเจ้านายเราทั้งสองล้วนเป็นข้าของพระเจ้าเหี้ยนเต้  เล่าปี่เป็นเชื้อพระวงค์ ตัวของพี่นั่น แหละควรจะออกจากกังตั๋งไปอยู่กับเล่าปี่ควรจะชอบ  พี่จะได้เป็นเสนาบดี แล้วเราจะได้อยู่ด้วยกันพี่น้องกันตลอดไป  ความรักระหว่างญาติกับหน้าที่ราชการได้สอดคล้องกัน 
 
จูกัดกิ๋นไม่รู้จะทำอย่างไรดี ตัวเรานี้อุตส่าห์รับอาสาจิวยี่มาเกลี้ยกล่อม ไปๆ มาๆ กลายเป็นขงเบ้งเกลี้ยกล่อมเราแล้ว  อยู่ต่อไปเห็นทีจะเสียทีขงเบ้งเป็นแน่ ลากลับมาก่อนแล้วกัน  ก็กลับมารายงานจิวยี่ตามที่ได้เจรจากับขงเบ้งทุกประการ  จิวยี่ก็เลยถามว่าตัวท่านล่ะ จะไปอยู่กับเล่าปี่หรือจะอยู่กับซุนกวน  จูกัดกิ๋นก็บอกว่าซุนกวนกรุณาปราณีต่อข้าพเจ้า  ข้าพเจ้าไม่เอาใจออกห่างแน่นอน  จิวยี่จึงว่าซึ่งท่านซื่อตรงต่อซุนกวนเช่นนี้  ข้าพเจ้าก็ไม่จำเป็นจะต้องกังวลอะไรมากแล้ว ข้ามีอุบายที่จะเอาชนะน้องชายของท่านอยู่แล้ว  
 
ครั้นได้ฤกษ์เคลื่อน จิวยี่ก็ไปลาซุนกวนตามธรรมเนียม  ซุนกวนก็อวยชัยให้พรว่า ข้าพเจ้าจะเตรียมพร้อมเป็นกองหนุน จะยกทัพไปต่อเมื่อท่านเรียกใช้  จิวยี่จึงเชิญขงเบ้ง  เทียเภา  และโลซก ลงเรือลำเดียวกัน แล้วให้เคลื่อนกำลังไปยังปากน้ำเมืองกังแฮ พอไปถึงก็ให้ทหารขึ้นบก ตั้งค่ายเรียงรายกันเป็นแถว ส่วนขงเบ้งก็ลงเรือน้อย ทอดสมออยู่ใกล้เรือธงคือเรือใหญ่