บทความพิเศษ

 

พิชัยสงครามกับสามก๊ก ตอนที่ ๖๖/๓ - เตียวคับ
21 ม.ค. 2562

 

ต่อมาอีก ๒ ปีพระเจ้าโจผีหมดบุญ ขุนนางทั้งปวงก็ยกโจยอยผู้บุตรขึ้นเสวยราชสมบัติ ตอนนั้นสุมาอี้ได้เป็นมหาอุปราช เตียวคับก็ยังได้เป็นทหารเอก โจยอยให้สุมาอี้ออกไปรบอีก สุมาอี้เองแม้จะเคยถูกปลดไปครั้งหนึ่ง แต่ภายหลังก็กลับมามีอํานาจได้อีกครั้ง สุมาอี้ได้ทําศึกกับขงเบ้งในครั้งแรกได้รับชัยชนะไปแล้ว ต่อมาได้รบแพ้กองทัพเมืองกังตั๋งของพระเจ้าซุนกวน ขงเบ้งจึงยกทหารจากเมืองฮันต๋งมาตีลกเอี๋ยงในครั้งที่ ๒ คราวนี้โจจิ๋นญาติของพระเจ้าโจยอย อาสายกกองทัพมีพล ๑๕ หมื่นรบกับขงเบ้งที่ตําบลตันฉอง ใกล้เขตลกเอี๋ยง

 

ตอนนั้นโจจิ๋นให้เตียวคับกับโกชุยรักษาด่าน อองสงเป็นกองหน้า ทัพของโจจิ๋นเอาชนะกองทัพของขงเบ้งได้ เพราะว่าอองสงมีฝีมือกล้าแข็ง สามารถฆ่านายทหารเอกของขงเบ้งตายไป ๒ บาดเจ็บอีก ๑ ขงเบ้งจึงวางกลอุบายล่อให้โจจิ๋นออกมาติดกับ แต่ปีเอียวนายทหารเอกคนหนึ่ง ออกรบแทนโจจิ้น จึงถูดล้อมหนีไม่พ้น ก็เอากระบี่เชือดคอตัวเองตายในสนามรบนั่นเอง

 

โจจิ๋นแจ้งข่าวไปให้พระเจ้าโจยอยทราบ พระเจ้าโจยอยปรึกษากับสุมาอี้แล้วก็มีหนังสือแนะนํามาให้โจจิ๋น แต่ว่าโจจิ้นไม่ปฏิบัติตามเพราะมีเรื่องอิจฉาริษยาสุมาอี้อยู่ เพราะฉนั้นก็เลยเสียทีกับขงเบ้ง ต้องตั้งมั่นอยู่แต่ในค่าย จนกระทั่งพระเจ้าโจยอยต้องสั่งให้เตียวคับซึ่งรักษาด่านอยู่ยกทัพมาช่วยโจจิ๋น

 

โจจิ๋นถามเตียวคับว่า เมื่อยกกองทัพมานี้ สุมาอี้แนะนําประการใดบ้างหรือไม่ เตียวคับบอกว่า สุมาอี้คาดการว่า ถ้าขงเบ้งเสียทีแก่เราก็ยังไม่เลิกทัพไป ถ้ามีชัยชนะก็ต้องถอยทัพกลับไป ขอให้โจจิ๋นสืบดูให้แน่นอน โจจิ๋นให้ทหารไปสืบดู ได้ความว่าขงเบ้งเลิกทัพไป ๒ วันแล้ว และในระหว่างนั้นก็ให้อุยเอี๋ยนยกทหารเข้าตีกองหน้าฆ่านายทหารฮองสงตายเสียด้วย โจจิ๋นก็เสียใจ สั่งให้เตียวคับ โกชุยและชุ่นเล อยู่รักษาด่านเมืองเตียงฮันทุกตําบล แล้วตนเองก็เลิกทัพกลับไปเมืองลกเอี๋ยง

 

ต่อมาพระเจ้าเล่าเสี้ยนเป็นพันธมิตรกับพระเจ้าซุนกวน จึงให้ขงเบ้งยกทัพไปตีเมืองลกเอี๋ยงอีก โดยผ่านทางด่านตันฉองอีกครั้งหนึ่ง พอดีเฮกเจียวนายด่านป่วยหนัก ขงเบ้งก็เลยตีด่านแตก เตียวคับคุมทหารมาช่วยก็ไม่ทัน ขงเบ้งสั่งทหารให้ตีด่านชันก๋วนแตกอีก เตียวคับมาช่วยก็ไม่ทัน แตกไปเสียทุกด่าน จึงยกทหารไปตั้งที่เมืองเตียงฮันซึ่งโกชุยรักษาอยู่ แล้วจึงแจ้งข่าวไปถึงพระเจ้าโจยอยพร้อมกับแยกกันรักษาด่านโดยกวนขัน

 

พระเจ้าโจยอยแต่งตั้งสุมาอี้เป็นแม่ทัพใหญ่ มีอาญาสิทธิ์ทุกประการ ยกกองทัพไปตั้งอยู่ที่เมืองเตียงฮัน แล้วให้เตียวคับกับไต้เหลียงคุมทหาร ๑๐ หมื่นไปรับมือขงเบ้งที่เขากิสาน ขณะนั้นขงเบ้งตีได้เมืองบูเต๋าและก็เมืองอีมเป๋งแล้ว แต่ยกทหารมาตั้งค่ายนอกเมืองประมาณ ๑๐๐ เส้น สุมาอี้จึงให้เตียวคับและไต้เหลียงคุมทหารหมื่นหนึ่ง ยกทัพไปทางหลังค่ายแล้วเข้าตีโดยไม่ให้ขงเบ้งรู้ตัว แต่ขงเบ้งวางกลดักไว้ในป่าสองข้างทาง พอเตียวคับกับไต้เหลียงยกทัพมาจะมาถึงค่ายทหาร ได้ยินเสียงคนอยู่บนเขาก็ชงัก เตียวคับต้องขับม้ากลับมาต้อนทหารที่เดินล้าหลังขึ้นไปให้ทัน จึงเห็นเกวียนเชื้อเพลิงที่ทหารของขงเบ้งขนมาปิดล้อม จึงชักม้าสกัดหลังไว้ ก็รีบเรียกทหารที่อยู่ข้างหน้าให้ถอยลงมา พอดีข้าศึกจุดประทัดเพลิงสว่างรอบตัว ทหารที่ซุ่มอยู่ในป่าก็โห่ร้องล้อมเข้ามา ขงเบ้งตั้งค่ายโดยรู้ว่ามีจุดอ่อน เพื่อที่จะล่อให้ทหารเหล่านี้มาติดกับนั่นเอง

 

ตอนนั้นขงเบ้งอยู่บนเนินเขาก็ร้องออกมาว่า สุมาอี้สําคัญว่าเราอยู่ในค่าย จึงให้มาปล้นค่ายเราหรือ บัดนี้ต้องกลของเราแล้ว เข้ามาคํานับเราโดยดีเถิด ตัวท่านเป็นทหารเลวหามีใครนับถือไม่ อย่าคิดอายถือตัวอยู่เลย เตียวคับโต้ตอบว่า ตัวมึงชาวบ้านนอก อวดตั้งตัวเป็นใหญ่ บังอาจล่วงมาถึงแดนกู กูจะเอาตัวมึงสับเสียให้ละเอียด ว่าแล้วก็ขับม้าจะขึ้นไปบนเขาเพื่อจะจับตัวขงเบ้ง ทหารฝ่ายขงเบ้งระดมยิงเกาทัณฑ์ลงมา เตียวคับขึ้นไม่ได้ต้องยอมถอย ขงเบ้งก็ให้ทหารไล่ฟันทหารของเตียวคับล้มตายเป็นอันมาก เตียวคับกับไต้เหลียงตีฝ่าออกมา ทหารของขงเบ้งต้านไว้ไม่อยู่ ก็เลยสามารถแหวกทางไปได้

 

ขงเบ้งมองดูบนเนินเขาก็สรรเสริญว่า เตียวคับคนนี้ได้ยินเลื่องลือมานาน วันนี้เพิ่งได้เห็นประจักษ์ตา เข้มแข็งมีกําลัง ทหารคนนี้แม้อยู่สืบไปเบื้องหน้า จะเป็นอันตราย จําจะต้องกําจัดเสียให้ได้ เมื่อเตียวคับกับไต้เหลียงกลับมาถึง สุมาอี้ก็เสียใจว่าขงเบ้งมีสติปัญญาความสามารถ จําจะต้องตั้งมั่น รบไว้ให้ช้าอยู่ พอเห็นเสบียงอาหารขัดสน ขงเบ้งก็ต้องเลิกไป

 

ตั้งแต่นั้นมา สุมาอี้ก็ไม่ได้ให้ทหารออกสู้รบเลย แม้ขงเบ้งจะแต่งทหารมายั่วหลายครั้งไม่ยอมออกไปรบ กะให้ขงเบ้งเสบียงอาหารหมด จะได้ยกทัพกลับไป ยันทัพอยู่ถึง ๑๔-๑๕ วัน ขงเบ้งเสบียงหมด ก็ให้ทหารถอยร่นออกจากค่ายไปประมาณ ๓๐๐ เส้น สุมาอี้กลัวเป็นกลลวงก็ไม่ได้ยกทหารตามไป เตียวคับก็บอกว่าขงเบ้งขัดสนเสบียงอาหาร ถอยทัพไป ทําไมจึงไม่ยกทหารไปโจมตี จะมาคิดวิตกขงเบ้งด้วยเรื่องอันใด สุมาอี้บอกว่า ปีก่อนเสฉวนมีข้าวปลาอาหารบริบูรณ์ กองทัพขงเบ้งกินไปได้ตั้งครึ่งปีก็ไม่ขัดสน แต่ขงเบ้งยังคงถอยไปวันละ ๓๐๐ เส้น คือถอยไปเรื่อยๆ สุมาอี้เริ่มลังเลว่าขงเบ้งเสบียงอาหารหมดหรือไม่ เตียวคับก็รบเร้าอยู่เสมอว่าขงเบ้งยกหนีไปจริงๆ แล้วล่ะไม่งั้นคงไม่ให้ถอยไปวันละ ๓๐๐ เส้น ข้าพเจ้าขออาสาตามไปตีให้จงได้ แม้เสียทีแก่ข้าศึกมา จะยอมให้ตัดศีรษะ แต่ถ้าหากขงเบ้งออกมารบ ก็ให้ยกทหารหนุนออกไปช่วยด้วยแล้วกัน

 

สุมาอี้ห้ามอีกหลายครั้ง เตียวคับไม่ฟัง ก็ตกลงให้เตียวคับกับไต้เหลียงคุมพลทหาร ๓ หมื่นตามขงเบ้งไป แต่กําชับว่า เมื่อทันแล้วไม่ต้องรีบเข้าตี จงพักทหารให้สบายเสียก่อนแล้วสุมาอี้จะยกทหารหนุนตามไป

 

ขงเบ้งเห็นสุมาอี้ตามมา ก็จัดทหารเอก ๙ นายคุมทหารเข้ารบหลอกล่อให้ตามไปถึงซอกเขา แล้วล้อมฆ่าฟันทหารของเตียวคับ สุมาอี้แตกยับเยินไป แต่ตอนนั้นขงเบ้งล้มป่วยอาการหนัก ก็ยกกองทัพกลับไปเสฉวน กว่าที่สุมาอี้จะเชื่อว่าขงเบ้งถอยไปจริงก็เลยไป ๕ วันแล้ว ก็ถอนใจใหญ่ว่า ขงเบ้งเป็นดั่งเทพเทวดา ก็เลยไม่เอาโทษเตียวคับ ก็เลยรอดตัวไปอีกครั้ง