บทความพิเศษ

 

พิชัยสงครามกับสามก๊ก ตอนที่ ๑๓/๒ - อ้วนสุด
4 ม.ค. 2559

 

ดังที่ทราบแล้วว่า อ้วนสุด คิดแต่จะเป็นใหญ่ ตั้งแต่ได้ตราหยกมา แต่จนใจ อาณาเขตตนเองยังไม่กว้างขวางเท่าไร มีเพียงเมืองลำหยง เพียงเมืองเดียว ก็คิดจะไปตีเมือง “เสียวพ่าย” ของเล่าปี่ โดยจะไปเกลี้ยกล่อมให้ลิโป้เข้ากับตน แต่ลิโป้ ก็คือ ลิโป้ รับสินบนแล้วเบี้ยว คือ ของน่ะเอา แต่จะให้ทำงานน่ะไม่เอา ยิ่งต้องไปรบกับเล่าปี่แล้วไม่มีทาง เป็นอันว่า อ้วนสุด ก็ถูกเบี้ยว เลยเอาชนะเล่าปี่ไม่ได้

 

สามก๊ก, ขงเบ้ง, เล่าปี่, กวนอู, เตียวหุย, โจโฉ, ซุนกวน, อ้วนสุด

 

อ้วนสุด ได้แต่ปรึกษากับนายทหารทั้งปวงว่า  เมื่อครั้งก่อน “พระเจ้าฮั่นโกโจ” ซึ่งเป็นปฐมกษัตริย์ราชวงศ์ฮั่น ก็เป็นเพียงคนอนาถา (แต่เขามีวาสนานี่)  ต่อมาตั้งตัวเป็นกษัตริย์ แล้วก็สืบราชสมบัติมาจนถึงพระเจ้าเหี้ยนเต้  บัดนี้ไม่มีความสงบเรียบร้อย แถมเกิดจลาจลรบพุ่งกันอยู่เสมอ สงสัยจะถึงคราวล่วงเลยดับสูญ ตนเองเป็นเชื้อสายขุนนาง ราษฎรก็รักใคร่สมควรจะตั้งตัวเป็นกษัตริย์ได้หรือยัง


ดู๋...ช่างกล้าคิดได้  ทั้งๆที่มีเพียงเมืองลำหยงอยู่ในอำนาจเพียงเมืองเดียว ก็คิดการณ์ใหญ่แล้ว  ประเภทเล็กไม่...ใหญทำนี้ ในดวงชาตา ต้องสัมพันธ์กับดาว ๘ ดาวเนปจูน และดาว ๑ ค่ะ และต้องได้รับแสงจากดาวบาปเคราะห์ด้วย ถึงจะได้เท่าอ้วนสุด

 

ที่ปรึกษาทั้งหลายทั้งปวง ต่างก็มีความคิด พากันห้ามโดยพร้อมเพรียงกันว่า  พระเจ้าเหี้ยนเต้ ยังมีพระชนม์อยู่ และก็มิได้ทำผิดคิดร้ายต่อราษฎรแต่ประการใด ไม่สมควรที่ท่านจะตั้งตัวเป็นเจ้าขึ้นแข่งบารมี


อ้วนสุดยังไม่รู้สึก ความจริง ความคิดของ โจโฉ เล่าปี่ ซุนเซ็ก คงไม่แตกต่างจากอ้วนสุด เพียงแต่ไม่มีใครเขาพูดออกมาดังๆ เท่านั้น


ดังนั้น อ้วนสุด ก็ยังปาว ๆ อยู่ว่า “ตราสำหรับกษัตริย์ อยู่ในเงื้อมมือกู เหมือนหนึ่งเทพยดามาเสกให้กูเป็นเจ้า แม้ใครไม่ยอม จะให้ตัดศีรษะเลย”

 

ถ้าเราเป็นที่ปรึกษา คงต้องคิดในใจว่า “ก็ตามใจมึง... “  เป็นอันว่า ที่ปรึกษาทั้งหลายก็ต้องเงียบเสียงไปตามระเบียบ อ้วนสุดจึงตั้งตัวเป็นเจ้า ชื่อ “ต๋องซือ”  ตามหนังสือสามก๊ก ฉบับเจ้าพระยาพระคลัง(หน) บอกว่า “เมื่อฤกษ์งามยามดี อ้วนสุดก็ตั้งตัวเป็นกษัติรย์”  ไม่รู้ที่ปรึกษาคนไหนวางยาหาฤกษ์ให้ ตระกูลอ้วนถึงสาบสูญไปทั้งตระกูล

 

ถึงตอนนี้ ลูกสาวของข้าพเจ้าถามว่า “ชื่ออะไรนะแม่ ต๊องซือ หรือ”แม่ตอบว่า “ต๋องจ้ะ...ไม่ใช่ ต๊อง”

 

อ้วนสุดยังป่าวประกาศอีกว่า ตนนั้นสืบเชื้อสายมาจากพระเจ้างี่ซุน ตอนนี้อีกเช่นกัน ที่นักประวัติศาสตร์ทุกสมัย ค้นหาประวัติ พระเจ้างี่ซุน กันมือระวิง...แต่ก็ไม่พบ


ยังไม่พอ อ้วนสุด หรือ ต๋องซืออ๋อง ส่งทูตไปขอลูกสาวลิโป้ให้ลูกชาย ซึ่งเป็นเจ้าชายรัชทายาท ลิโป้รับปากรับคำเป็นอันดี แต่พอส่งขบวนไปรับตัวเจ้าสาว ลิโป้ ก็เบี้ยวตามเคย  นี่ไงฤกษ์ก็ไม่ดีแต่ต้น เป็นเราพบเหตุการณ์อย่างนี้ ก็ต้องสวด ยันทุนนิมิตตัง กัน อวมงคล ไว้ก่อน แต่ อ้วนสุด ไม่รู้จัก

 

ต๋องซืออ๋อง พิโรธโกรธยิ่งนัก ส่งทหารไปรบถึง ๗ กอง  เปิดแนวรบเข้าตีเมืองชีจิ๋วของลิโป้ และหัวเมืองที่ขึ้นอยู่ด้วย คือ เสียวพ่าย กินโต๋ ลองเอี๋ย และเมืองเกียดเช็ก เมืองแห้ผือ และเมืองจุนสัวพร้อมกัน


ผลก็คือแตกพ่าย เสียท่าลิโป้ทั้งเจ็ดทิศ เสียทหาร และศัสตราวุธไปเป็นอันมาก ต้องถอยกลับมาตั้งหลักที่เมืองลำหยง ตามเดิม...เฮ้อ เหนื่อยแทนท่านอ๋อง ผู้อาศัยฤกษ์อะไรไม่รู้ตั้งตัวเป็นกษัตริย์

 

ฝ่ายโจโฉ เมื่อได้ข่าวศึก และข่าวอ้วนสุดตั้งตนเป็นเจ้า ก็เท่ากับเป็นขบถต่อพระเจ้าเหี้ยนเต้ ในฐานะที่ตนเป็นอุปราช ก็ต้องแต่งกองทัพไปปราบปราม แต่ช่วงนั้นติดราชการงานรบที่เมืองอ้วนเซีย แถมตนเองก็ไปหลงเสน่ห์ นางเจ๋าซือ ซึ่งข้าพเจ้าจะเล่าให้ฟังคราวหน้านะคะ ติดไว้ก่อน


แต่บทสรุปของตอนนี้ คือ “โจโฉ พ่ายกลศึก ต้องแตกทัพยับเยิน ต้องพักฟื้นระยะหนึ่ง ถึงจะไปจัดการกับอ้วนสุดได้” คือ ไปล้อมเมืองด้วยกองทัพมหึมา