บทความพิเศษ

 

พิชัยสงครามกับสามก๊ก ตอนที่ ๑๘/๑ - เล่าปี่
7 ก.พ. 2559

 

 

สามก๊ก, ขงเบ้ง, เล่าปี่, กวนอู, เตียวหุย, โจโฉ, ซุนกวน

 

สำหรับตอนนี้ เป็นเรื่องของเล่าปี่ ซึ่งในพงศาวดารจีนเรื่องสามก๊กนั้น ดูเหมือน “หลอกว้านจง” ผู้แต่งจะมีเจตนาให้ “เล่าปี่” เป็นพระเอก เป็นฝ่ายธรรมะ  ส่วน “โจโฉ” ก็รับหน้าที่เป็นตัวโกงไป อันนี้ถ้าภาพยนตร์ ภาพของความเป็นพระเอกเป็นตัวโกงยิ่งชัดเจน แต่ในลักษณะของพงศาวดารที่มีความจริงของประวัติศาสตร์ปนไปกว่าครึ่ง ไม่อาจจะชี้ชัดลงไปอย่างแน่นอนว่า ใครคือ พระเอก ใครคือตัวโกง เป็นเรื่องของความเป็นไปในแผ่นดิน กลยุทธ ที่จะทำให้ครองแผ่นดินอันกว้างใหญ่นี้ในที่สุด

 

เล่าปี่ มีโหงวเฮ้งที่บ่งบอกถึงความมีบุญมาแต่กำเนิด แม้ในทางพุทธศาสนาเรานั้น อาจพูดได้ว่า การให้ทานในอดีตชาติคงมีน้อย จึงได้เกิดมายากจนและลำบาก และด้วยลักษณะที่ติดตัวมาอย่างนี้ จึงส่งผลให้เล่าปี่ แม้ว่าจะเป็นผู้มีบุญ มีวาสนาครองแผ่นดินหนึ่งในสาม แต่ก็ลำบาก และต้องเสียน้ำตามากกว่าผู้อื่น เรียกได้ว่า แม้มีวาสนา แต่ก็ไร้ความสุขทางใจ อาจเป็นดั่งที่ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ได้ทรงนิพนธ์ไว้ใน “ตำนานหนังสือสามก๊ก” ว่า

 

“เล่าปี่ที่ว่าเป็นคนดี ก็ดีแต่อัธยาศัย แต่เรื่องประวัติของเล่าปี่ ซึ่งปรากฏในเรื่องสามก๊ก ดูเป็นแต่เที่ยวรบพุ่งชิงบ้านเมืองเพื่อประโยชน์ของตนเอง ไม่เห็นว่าได้ตั้งใจขวนขวายช่วยพระเจ้าเหี้ยนเต้จริงจังแต่อย่างใด”

 

ในทัศนะของข้าพเจ้า ที่น่าคิดก็คือ แม้ว่าขงเบ้ง จะกำหนดนโยบายให้ครอบครองทำเลดีที่สุดคือ ดินแดนเสฉวนเพื่อตั้งตัวเป็นใหญ่ได้สำเร็จ แต่ก็ไปไม่ถึงดวงดาว คือการครองแผ่นดินอันยิ่งใหญ่ไพศาลนี้ได้ แม้ว่า ฟ้าจะประทานบุญวาสนาของความเป็นใหญ่ ทำเลดินบันดาลเกื้อหนุนให้ตั้งตนเป็นกษัตริย์ แต่ไม่ประสานบุคคล เพราะนิสัยใจคอที่เป็นกรรมที่ตามมาในกมลสันดานยากเปลี่ยนแปลง

 

ซึ่งถ้าใครได้อ่านสามก๊กหลายๆ เที่ยว จนใครๆ เขาเลิกคบแล้ว จะมองเห็นอะไรหลายอย่างที่ไม่น่ารักไม่น่านับถือในตัวของเล่าปี่

 

ครั้งหนึ่ง เมื่อเล่าปี่ช่วยโจโฉปราบลิโป้ที่เมืองชีจิ๋วลงได้แล้ว โจโฉก็พาเล่าปี่ไปเฝ้าพระเจ้าเหี้ยนเต้ กราบทูลความชอบ เมื่อฮ่องเต้ได้ทราบว่าเล่าเปี่เป็นเชื้อพระวงศ์ระดับพระเจ้าอา ก็แต่งตั้งให้เป็นขุนนางผู้ใหญ่ฝ่ายกรมวัง ต่อมาเล่าปี่ เห็นโจโฉทำกิริยาอาจเอื้อมต่อฮ่องเต้ และมีขุนนางผู้เกลียดชังคบคิดกันจะกำจัดโจโฉรวมได้หกคน เล่าปี่ก็ไปเข้าชื่อเป็นพวกด้วย แต่ยังไม่ได้โอกาสลงมือ ก็ไม่ค่อยสบายใจ กลัวความลับจะแตกเสียก่อน จึงแกล้งทำสวนปลูกผักอยู่หลังบ้าน ไม่เอาใจใส่ต่อราชการบ้านเมือง

 

จริงๆ แล้ว ก็เป็นอุบายอย่างหนึ่งในการที่จะรู้หลบเป็นปีก หรือ รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี แต่ก็น่าเกลียดไปหน่อยสำหรับความเป็นพระเอก จริงไหมคะ

 

คนเรานั้น ถ้ารู้ว่าตนเองต้องการอำนาจ ก็แสดงให้รู้ไปเลย จะดีจะเลว ก็ต้องแสดงออกมาไม่ต้องเสแสร้ง นี่ละจึงจะเป็นพระเอก ถ้าเรื่องนี้เล่าปี่เป็นไปอย่างที่เราคิด พระเอกของเราคงซี้แหงไปตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว