- ฮวงจุ้ยพื้นฐาน
- รูปภาพและความหมาย
- ฮวงจุ้ยสำนักงาน
- ฮวงจุ้ยที่ดิน
- ฮวงจุ้ยร้านค้า
- ฮวงจุ้ยบ้านเรือนที่อยู่อาศัย
- ข้อห้ามเกี่ยวกับการเลือกที่อยู่อาศัย
- ทำเลเสียดูอย่างไร
- ดาว ๙ ยุคคืออะไร
- ดวงจีน
- การดูลักษณะภูเขา
- กรณีศึกษาฮวงจุ้ย
- ประสบการณ์การดูทำเลของอาจารย์แอน
- คำคม..ข้อคิด
- เกร็ดความรู้จากพุทธศาสนา
- เกร็ดความรู้ที่ได้จากวรรณคดี
- บทความพิเศษ
23 ก.พ. 2559
จูล่งเป็นชาวเมืองทางด้านตอนใต้ของเมืองเสียงสานซึ่งเป็นภาษาฮกเกี้ยน เดิมทีนั้นจูล่งมิได้อยู่กับเล่าปี่ เหตุการณ์เดิมนั้นเกิดขึ้นจากการที่เล่าปี่ขอยืมทหารจากกองซุนจ้าน เจ้าเมืองปักเป๋ง เพื่อที่จะทำการรบเพื่อช่วยโตเกี๋ยมให้พ้นจากโจโฉ กองซุนจ้าน จึงให้ยืมกองทหารมาพร้อมกับจูล่งด้วย
จูล่งนั้น รับราชการครั้งแรกกับอ้วนเสี้ยวผู้ที่เป็นผู้นำ ๑๖ หัวเมืองในการต่อต้านตั๋งโต๊ะมาก่อน ครั้งนั้นอ้วนเสี้ยวครองเมืองชีจิ๋ว และกองซุนจ้านมีน้องชื่อกองซุนอวดซึ่งมีศึกรบกันอยู่กับอ้วนเสี้ยว ครั้งนั้นกองซุนจ้านก็เข้าร่วมรบด้วย แต่ก็สู้ บุนทิว ทหารเอกของอ้วนเสี้ยวไม่ได้ ปรากฏว่าขณะพ่ายแพ้อยู่ ก็มีนายทหารนายหนึ่งมาช่วย สามก๊กฉบับเจ้าพระยาพระคลัง (หน) เขียนว่า กองซุนจ้านออกมาจากเงื้อมเขาเห็น ทหารคนหนึ่งสูงประมาณ ๖ ศอก หน้าผากและคิ้วใหญ่ ตาโต ก็ถามว่าท่านนี้ชื่อใด มาช่วยเรานี้ ขอบใจนัก จูล่งย่อตัวลงคำนับแล้วกล่าวว่า ข้าพเจ้าชื่อ จูล่ง แซ่เตียว อยู่เมืองเสียงสาน แต่ก่อนนั้นข้าพเจ้าอยู่ด้วยอ้วนเสี้ยว เห็นว่าอ้วนเสี้ยวเป็นคนมีพยศ หยาบช้า มิได้รักษาสัตย์ ข้าพเจ้าจึงหนีมาพึ่งอยู่ด้วยท่าน กองซุนจ้านก็มีความยินดี จึงขึ้นม้าพาจูล่งและทหารทั้งปวงยกกลับค่าย จูล่งจึงได้อยู่กับกองซุนจ้านนับแต่นั้นมา
เรื่องสามก๊กนั้น เมื่อจะกล่าวถึงตัวเอกตัวใดมักจะกล่าวถึงลักษณะไปด้วยทุกครั้งไป โดยจะสังเกตที่ความสูงใหญ่ ดูคิ้ว ดูหน้าผาก และดวงตา เป็นหลักทุกครั้งไป จูล่งมีลักษณะหน้าผากและคิ้วใหญ่ ตาโต หน้าผากและขมับ หมายถึงจุดชีวิตในวัยต้น ปัญญา ความเก่งกล้าสามารถ นับแต่กองซุนจ้านได้จูล่งคุมกองหลัง เมื่อจูล่งขับไปทางซ้าย ก็ซ้ายแตกเมื่อขับไปทางขวา ก็ขวาแตก หาผู้ใดต้านทานมิได้
ทั้งกองซุนจ้าน และจูล่ง ชอบสวมเกราะสีขาวเหมือนกัน
เมื่อครั้งเล่าปี่ยืมทหารจากกองซุนจ้านและยังได้ยืมตัวจูล่งไปด้วยนั้น เพราะเมื่อครั้งที่กองซุนจ้านรบกับอ้วนเสี้ยวนั้น เล่าปี่ กวนอู เตียวหุย ก็ได้เข้าช่วยรบด้วย เล่าปี่เห็นรูปร่างจูล่งนั้นสมเป็นนายทหาร ก็มีความรักใคร่ถูกชาตาเป็นอันมาก ดังนั้นเมื่อครั้งที่ไปขอยืมทหารจึงเอ่ยปากยืมจูล่งด้วย แต่ก็ไม่ได้คืนให้แก่กองซุนจ้านนับแต่นั้นมา และจูล่งก็ได้ทำงานอยู่กับอัครเสนาบดีฝ่ายกลาโหมคือขงเบ้งต่อมาอีกเป็นเวลานาน
ย้อนกลับมาในช่วงที่เล่าปี่ กวนอู เตียวหุย ได้อาศัยอยู่กับกองซุนจ้าน เมื่อเล่าปี่จะขอลากลับไปยังเมืองเพงงวนก๋วน จูล่งมีการพูดแก่เล่าปี่ว่า แต่ก่อนข้าพเจ้าเห็นว่าอ้วนเสี้ยวเป็นคนหยาบช้า ข้าพเจ้าจึงมาอยู่ด้วยกองซุนจ้าน บัดนี้เห็นว่ากองซุนจ้านก็หาความคิดมิได้ ข้าพเจ้ามีความลำบากใจ เห็นว่าท่านมีสติ ปัญญา คิดจะทำราชการด้วย
นักวิจารณ์หลายท่านมองไปว่า เล่าปี่เป็นผู้ทรยศ หักหลังเพื่อน หรือในกรณียืมจูล่งไปและไม่คืนนั้น คงต้องย้อนกลับมาทบทวนสามก๊กตอนที่ ๖ อีกครั้ง เพราะจูล่งได้พูดฝากตัวกับเล่าปี่มาก่อนหน้านี้แล้ว ทำให้เราได้มองเห็นบุคลิกของกองซุนจ้านด้วยว่า สาเหตุที่กองซุนจ้านไม่อาจจะเป็นตัวเอกได้ เนื่องจากฉลาดน้อย รบกับผู้ใดก็ล้มลุกคลุกคลานมาตลอด จูล่งเองก็ถือความก้าวหน้าของราชการเป็นหลัก จึงมีความคิดอยู่แต่แรกแล้วที่จะเสาะหาทำราชการกับผู้ที่มีความสามารถ และเล่าปี่ก็ได้รับปากแก่จูล่งในครั้งนั้นว่า เรารู้จักกันครั้งนี้มีความถูกชาตากัน ให้คอยอยู่กับกองซุนจ้านก่อน ถ้าชีวิตมิตายสืบไปภายหน้า ท่านจะได้ทำราชการด้วยเราเป็นมั่นคง จงจำคำนี้ไว้อย่าลืม แล้วเล่าปี่จึงยุดมือจูล่งไว้ มีใจเศร้าโศก จูล่งก็ร้องไห้รักเล่าปี่ แล้วจึงลาจากกัน