ถ้าหากตึกเล็กและมีสะพานรถข้ามผ่านก็เหมือนค้ำตึกเราไป  แต่ถ้าเกิดตึกใหญ่เหนือกว่าสะพาน กรณีนี้ถ้าไม่ใช่เป็นตึกที่ทำการค้าขายแต่เป็นที่ตั้งของบริษัทแล้ว  จะไม่ค่อยมีปัญหา  แต่ถ้าในตึกไม่ใช่บริษัทเดียวกันทั้งหมด  สมมติว่าแยกไปเช่าข้างล่าง แบบนี้คือน้ำท่วมในทางฮวงจุ้ย จะต้องประกอบอาชีพอะไรที่มันลอยขึ้นมา  ก็ต้องทำเกี่ยวกับเรือ ขายดอกไม้ ลูกบอล ของทะเล อะไรที่รู้สึกว่าไปกับน้ำได้  ต้องลองจินตนาการดูว่า ถ้าน้ำท่วมขึ้นมา อันนี้ไม่จมตามน้ำ  แล้วทำอะไรให้ดูสดใส  ดูโดดเด่น น้ำไม่ท่วม แต่ถ้าเราอยู่ในชั้นสูงกว่าสะพานซึ่งเริ่มเป็นสำนักงานแล้วก็ไม่เป็นไร

และถ้าห้องที่ค้าขายอยู่ใต้สะพาน ต้องดูเรื่องทางเข้าด้วย  ทิศของทางเข้าอยู่ตรงไหน ถ้าสมมติว่าสะพานอยู่ด้านหลังของตึกเท่ากับสะพานนี้เป็นเต่าดำสนับสนุนไป   ถ้าสะพานไปอยู่ด้านข้างก็จะเป็นตำแหน่งเสือหรือมังกรก็แล้วแต่อยู่ซ้ายหรือขวา  แต่ถ้าประจันหน้าเลย ต้องดูว่าอยู่ในระยะประชิดหรือเปล่า หรือมีทางที่จะถอยเข้าไปที่เหมือนกับแอ่งน้ำ น้ำเทลงไปแล้วเหมือนเป็นแอ่งน้ำหลัก

อย่างเช่นสถานีขนส่งสายใต้ มีถนนลอยฟ้าผ่านด้านหน้าไป ฉะนั้นเวลาการสร้าง โครงสร้างจะต้องถอยเข้าไป จะต้องเป็นโครงสร้างที่เป็นมงคลและอยู่กับน้ำได้มากๆ เช่น เป็นรูปทรงของเต่า  เพราะสิ่งปลูกสร้างนี้ใหญ่มากและด้านหน้าก็ต้องมีน้ำพุเหมือนกับเต่าพ่นน้ำ  ให้เป็นเต่ามังกร

ในถนนเส้นที่มีรถไฟฟ้าอยู่ด้านบน  เช่น  ถนนพหลโยธิน เมื่อก่อนนี้ ถนนเส้นนี้การค้าคึกคักมาก  แต่ปัจจุบันจะสังเกตเห็นว่า ถนนช่วงสะพานควายซบเซาและมีตึกแถวเก่าร้างเยอะมาก  คือ  ถนนพหลโยธินเป็นถนนที่ค่อนข้างแคบ เมื่อมีรถไฟฟ้าอยู่ข้างบนก็รู้สึกว่ามืดลงไป นั่นคือ  การถูกกด คำว่ารถไฟฟ้าจะมีความหมายของธาตุไฟแฝงอยู่ ถูกกดถูกทับอยู่  เราสังเกตว่า เวลาเราจุดเทียน ข้างในตรงไส้มันดับแล้วข้างนอกสว่าง มันก็เหมือนทางรถไฟฟ้านำไปสู่ความเจริญ แต่ว่าในแถบที่อยู่ใกล้นั้นก็ไปหมด  สิ่งที่เราจะแก้ไข คือทำกิจการที่เกี่ยวกับไฟฟ้าหรือคอมพิวเตอร์  และเข้าไปข้างในอีกก็อาจจะเป็นพวกธาตุไม้พวกเสื้อผ้าก็ได้อยู่ 

เรานึกถึงอีกหนึ่งที่ที่ทำเกี่ยวกับไฟฟ้าและคอมพิวเตอร์ ตรงถนนรัชโยธิน ปลายถนนเป็นธนาคารไทยพาณิชย์  และต้นถนนเป็นตึกฟอร์จูน ตรงนั้นกลายเป็นที่ขายคอมพิวเตอร์เดิมนั้นเป็นศูนย์การค้า  แถวนั้นจะมีสะพานลอยตั้งอยู่  มีอะไรตัดผ่านเยอะแยะไปหมด  คือน้ำเยอะ พอน้ำเยอะเอาไฟขึ้นมาให้ดูสดใสก็สามารถส่งเสริมให้เจริญขึ้นมาก็ได้

สถานที่อีกแห่งที่เจริญขึ้นและผู้คนเยอะมากขึ้นคือ  ตรงเมเจอร์รัชโยธิน จะเห็นได้ว่ามีสะพานผ่าน แต่ว่าสะพานตรงนั้นมีอำนาจน้อยกว่าถนน  ถนนรัชดาก็เป็นถนนใหญ่ เรียกว่ารัชโยธิน  ถนนที่มาจากเซ็นทรัลลาดพร้าวเป็นถนนใหญ่ เป็นชุมชน  และมีสะพานขึ้นมาอีกหนึ่งอันสะพาน ซึ่งไม่ได้มีอำนาจที่จะกดถนนเหล่านั้นลงไปได้เลย  มันทำให้การคมนาคมสะดวกขึ้น  ถนนรัชดาทั้งสายก็เจริญถึงกันหมด  คือ  ถนนทุกสายสามารถมุ่งเข้าสู่รัชดา  ถ้าเรามีคำพูดว่าทุกสายมุ่งสู่ นั่นคือการค้าที่เจริญ นั่นคือทำเลอันดับหนึ่ง 

ถ้าพูดถึงทุกสายมุ่งสู่ ก็นึกถึงโลโก้ของห้างสรรพสินค้าห้างหนึ่งซึ่งเป็นรูปลูกศรและเข้าหาจุดศูนย์กลางหมดเลย อันนี้ต้องดูว่าลูกศรอันนั้นฉันถูกทิ่มแทงทุกทางหรือเปล่า หรือว่าลูกศรที่หมายถึงคือถนนหรือพระอาทิตย์อันนี้ก็ใช่  อย่างเซ็นทรัลลาดพร้าวคือถนนทุกสายจริงๆ อย่างชื่อห้าง “เซ็นทรัล”ก็คือจุดศูนย์กลาง  ที่ตั้งก็ถูก  ถนนทุกสายก็เข้าหา  ถึงจะมีโลโก้ที่เป็นลูกศรก็ไม่มีผล

ช่วงถนนที่สร้างรถไฟฟ้าใหม่หลาย ๆ สาย ผู้ทำกิจการที่เคยได้ยินปากต่อปากกันมาว่า กิจการที่อยู่แถวรถไฟฟ้าพาดผ่านไม่ดี เขาก็จะเริ่มย้ายออกกัน ทำให้ถนนบางสาย ยังไม่ทันขึ้นงานหรือว่าสถานีรถไฟฟ้ายังไม่ทันขึ้นก็เริ่มร้างแล้ว จริงๆไม่จะเป็นต้องตื่นตูมขนาดนั้น 

 เราต้องดูว่าถนนกว้างไหม ทำกิจการอะไร  ความสอดคล้องกับการคมนาคมเป็นอย่างไร  เราจำเป็นจะต้องออกไปหรือจำเป็นจะต้องให้เขาเข้ามา  เราดูทางเข้า-ออก  กับอาชีพของเรา ถ้าอาชีพของเราออก ถนนสายนี้ทุกสายทำให้เราออกไปไหม ออกไปติดต่อคือกิจการตรงนี้คิดแล้วต้องออก  หรือว่าเราจำเป็นให้เขาเข้ามาด้วยอะไร  ซึ่งมันไม่ตายตัวเสมอไป บางคนก็อาจจะกลัวไปก่อน แต่ว่าถ้ามีรถไฟฟ้าผ่านหน้าชุมชนนั้น อาจจะทำให้ถนนนั้นเจริญขึ้น ผู้คนผ่านสัญจรมากขึ้น ธุรกิจการค้าของเรา ถ้าเราเลือกดีๆ อาจจะเจริญก็ได้ ตามแนวทางที่กล่าวมาข้างต้น

ยกตัวอย่าง มีกิจการนิตยสารฉบับหนึ่งอยู่สุดซอย แต่ว่าหนังสือของเขาขายส่งออกมาดีมากเพราะว่าเขามีเวลาสร้างสรรค์ เขาอยู่ในที่ที่ create เหมือนมังกรฟักไข่วนไปวนมา  พอ create เสร็จแล้วก็มีการส่งออกไปข้างนอก เขาสามารถที่จะคมนาคมได้ทุกทิศทาง แบบออกจากซอยมาก็ไปได้ทุกทิศทางเลย หนังสือเขาขายดีไปทั่ว  ก็ต้องเลือกซอยที่เหมาะสม ไม่ใช่ออกมา ถนนมีอยู่สายเดียว มันก็ขายไม่ดี มันก็กระจายออกไปไม่ได้ทั่ว 

(โปรดติตตามตอนต่อไป)