บทความพิเศษ

 

พิชัยสงครามกับสามก๊ก ตอนที่ ๓๗/๒ - ขงเบ้งยืมลูกเกาทัณฑ์
29 พ.ค. 2561

 

ลักษณะการพูดคุยของขงเบ้งและโลซก เป็นลักษณะการพูดแบบมองตากันก็รู้ ขงเบ้งรู้ถึงความคิดของจิวยี่ จิวยี่ขัดใจมาก ถ้าหากจิวยี่ย้อนคิดสักนิดหนึ่ง ก็จะมองทางขงเบ้งออก หากแต่จิวยี่ยังมองตัวเองเป็นผู้ที่เก่งกล้าสามารถ ไม่ได้ทําตนเป็นที่ปรึกษา เลยอ่านกันไม่ออก แต่ขงเบ้งทําตัวว่า ถ้าหากดูความคิดของจิวยี่ ต้องทําตัวเป็นจิวยี่ ขงเบ้งจึงคิดออกว่าจิวยี่คิดอะไร จิวยี่คิดอยู่ฝ่ายเดียวว่า ตนเองนั้นเป็นคนสําคัญในกันตั๋ง จะต้องจงรักภักดี จะต้องกําจัดใครต่อใคร จิวยี่จึงอ่านคนไม่ออก อ่านขงเบ้งไม่ออก แล้วโมโห เมื่อขงเบ้งอ่านตัวเองออก แต่ไม่ได้ย้อนคิดว่า ทําไมขงเบ้งจึงอ่านออก จิวยี่ย่อมไม่ชอบแน่ถ้าหากมีใครที่เก่งกล้าสามารถเกินตน ฉะนั้นขงเบ้งจึงมองออกตลอด ดังนั้น แผนการเกี่ยวพันกับเกาทัณฑ์อะไรต่างๆ ที่จิวยี่ยกมาแต่ละเรื่อง ขงเบ้งมองออกหมด ความที่มีอคติในใจเป็นสิ่งที่บดบังสติปัญญาของจิวยี่ไปอย่างน่าเสียดาย ทั้งๆ ที่เป็นคนที่ฉลาดที่สุด ขงเบ้งตอนที่หลอกเอาลูกเกาทัณฑ์ของโจโฉมาใช้ ก็รอบรู้ในประวัติศาสตร์ตอนหนึ่งในการก่อตั้งเมืองกันตั๋งของซุนเกี่ยน 
 
จิวยี่เมื่อตนเองกล่าวคําว่า ขงเบ้งทําคำพิพากษาประหารชีวิตตัวเองในที่ประชุมต่อหน้านายทหาร ด้วยการขอทำลูกเกาทัณฑ์ให้ได้ภายใน ๓ วันนับตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้น จิวยี่ไม่เชื่อว่าทำได้ แต่ก็มีความหวาดระแวงอีก จึงสั่งให้โลซกไปฟังเสียงขงเบ้ง ไปหยั่งเสียงดูว่าจะเนรมิตลูกเกาทัณฑ์ได้อย่างไร 
 
โลซกก็ตรงไปหาขงเบ้งในเรือ พอขงเบ้งเห็นหน้าโลชกก็ทําทีต่อว่าขึ้นว่า ท่านก็รู้อยู่แล้วว่าจิวยี่คิดฆ่าข้าพเจ้า ท่านยังอุตส่าห์นําความลับไปบอกต่อจิวยี่ บัดนี้ท่านเห็นไหมว่า ข้าพเจ้าจะไปจัดหาลูกเกาทัณฑ์ที่ไหนมาให้จิวยี่ได้สิบหมื่นภายใน ๓ วัน ก็ขอจงช่วยข้าพเจ้าให้พ้นโทษสักครั้ง นี่คือการพูดแบบอ่อนน้อมถ่อมตน ไม่อวดดีอวดเด่น คือขงเบ้งรู้จังหวะเมื่อใดจะทําตัวเป็นผู้รู้ดี เมื่อใดควรจะถอยหลังไปหนึ่งก้าว ยืดหยุ่นตลอดเวลา ทุกทีอวดเก่ง คราวนี้ไม่อวดแล้ว บอกว่าข้าพเจ้าตายแน่แล้ว 
 
โลซกก็บอกว่า ท่านหาเคราะห์มาใส่ตัวเอง จะให้ข้าพเจ้าช่วยได้อย่างไร ดันไปรับปากจิวยี่ ขงเบ้งก็บอกว่า ท่านช่วยข้าพเจ้าได้แน่ ท่านมีเรือมีคนพร้อม ข้าพเจ้าใคร่ขอยืมเรือท่านสัก ๒๐ ลํา มีคนประจําลําละ ๓๐ คน แล้วขอฟางข้าวกับผ้าสีน้ําเงินให้ข้าพเจ้าด้วย แล้วท่านจงปิดความนี้ไว้อย่าเล่าให้จิวยี่รู้ หาไม่แล้วข้าพเจ้าก็ทําการนี้ไม่สําเร็จ 
 
ตอนนี้ ขงเบ้งพูดเสียงอ่อนเสียงหวาน เดี๋ยวโลซกจะไปบอกจิวยี่อีก ก่อนที่จะให้โลซกทําอะไร ขงเบ้งก็ต้องอ่อนเข้าไปหาก่อน ตอนนี้ตนเองเป็นผู้น้อยกําลังถูกรังแก โลซกก็รับปาก คราวนี้รับรองจริงๆ ด้วยความสงสาร ไปรายงานจิวยี่ว่าไม่เห็นขงเบ้งทําลูกเกาทัณฑ์สักดอก เห็นแต่นั่งคิดอยู่เท่านั้น จิวยี่ก็บอกว่า ถ้าขงเบ้งไม่ทําให้เสร็จตามเวลากําหนด ข้าพเจ้าจะตัดศีรษะ โลซกกลัวขงเบ้งจะไปตายเพราะตนเองเป็นคนไปชวนขงเบ้งมา และข้อสําคัญขงเบ้งก็อ่อนน้อมให้ แล้วทําว่าตนเองไม่เก่งอะไรเลยพลั้งเผลอไป
 
ในช่วงที่เกิดเรื่องตรงนี้ จะตรงกับเดือนอ้าย แรม ๕ ค่ํา เดือนอ้ายของจีนก็ตรงกับเดือนกุมภา อาทิตย์อยู่ในราศีกุมภ์ ธาตุลม เป็นช่วงที่อาทิตย์ไม่ค่อยมีกําลัง เรียกว่าเป็นประ ดาวพุธก็พักร์ในช่วงเดือนนี้ ถ้าเรามองสังเกตการณ์จากโลก เหมือนดาวพุธจะเดินถอยหลัง ดาวเสาร์โคจรในราศีเมษ หมอกจะลงและไม่สว่างเต็มที่ในตอนเช้า 
 
โลซกหลังจากที่รับปากแล้ว ก็ไปรายงานจิวยี่ว่า ขงเบ้งยังไม่ได้ทําอะไรเลย โลซกได้แอบจัดเรือและของที่ขงเบ้งอยากได้ ส่งไปให้ขงเบ้ง วันหนึ่งก็ล่วงไปแล้ว วันสองก็ล่วงไปแล้ว ขงเบ้งไม่ได้ทําอะไรสักอย่าง ล่วงเข้าวันที่สาม เวลากลางคืน ขงเบ้งก็ให้โลซกมาพบ โลชกมาหาแล้วก็ถามว่า ท่านอาจารย์เรียกข้าพเจ้ามาประสงค์สิ่งใดอีกหรือ ขงเบ้งบอกว่า อยากจะชวนท่านไปรับลูกเกาทัณฑ์ด้วยกัน โลซกก็งงจะไปรับที่ใหน โลซกไม่ได้รู้ประวัติศาสตร์ของซุนเกี๋ยนแม้แต่น้อย ก็มีความสงสัยว่าจะไปรับที่ใหน ขงเบ้งก็ตอบว่าอย่าเพิ่งรู้เลย สักประเดี๋ยวก็จะเห็นเอง 
 
แล้วขงเบ้งก็สั่งให้เอาเชือกดึงเรือ ๒๐ ลําเข้าด้วยกัน พลางเคลื่อนไปทางฝั่งเหนือ คืนนั้นหมอกลงจัด เรือทุกลําตั้งมัดฟางด้วยเชือก คลุมด้วยผ้าสีน้ําเงินไว้เต็ม ขบวนเรือของขงเบ้งเคลื่อนเข้าสู่บริเวณฐานทัพของโจโฉ ไปเงียบๆ พอไปถึง ขงเบ้งก็ให้คนเรือตีกลองโห่ร้อง เสียงอื้ออึ้งเหมือนจะเข้าโจมตี โลซกก็ตกใจร้องถามขงเบ้งว่า กําลังของเรานิดเดียวจะสู้โจโฉไหวหรือ ขงเบ้งตอบว่า โจโฉคงไม่ออกมาตีเราในเวลาหมอกจัดอย่างนี้ดอก เราจะเสพสุราเล่นกันให้สบายเถิด พอหมอกจางลงค่อยถอยกลับ 
 
ฝ่ายอิกิ๋มแม่ทัพเรือ กับมอกายรองแม่ทัพ ได้ยินเสียงกลองและเสียงโห่ร้องก็ตกใจ รีบไปรายงานโจโฉให้ทราบ โจโฉก็บอกว่าหมอกลงจัดอย่างนี้อย่าส่งเรือรบออกไปลย เราก็ไม่ได้ชํานาญทางน้ํา จะถูกซุ่มโจมตีตายเสียเปล่าๆ โจโฉก็สั่งให้ระดมยิงเกาทัณฑ์ขับไล่ อย่าให้ยกขึ้นบกได้ แล้วโจโฉก็สั่งให้ทหารบกอีก ๖,๐๐๐ คนไปช่วยทหารเรือยิงเกาทัณฑ์ขับไล่เรือของขงเบ้งอีก 
 
ทันใดนั้น ทหารบก ทหารเรือ ของโจโฉเข้าเรียงรายตามริมฝั่งแม่น้ํา ระดมยิงกองเรือของขงเบ้งเป็นห่าฝน ขงเบ้งเห็นลูกเกาทัณฑ์ติดมัดฟางมากแล้ว สั่งให้หยุดเสียงกลอง  กลับเรืออีกแคมหนึ่งรับลูกเกาทัณฑ์ แล้วก็สั่งให้ตีกลองโห่ร้องอีก ทหารโจโฉก็ระดมยิงเกาทัณฑ์ลงมาเต็มลำเรือ พอหมอกเริ่มจาง ขงเบ้งก็สั่งให้เคลื่อนเรือกลับ บรรดาลูกเรือก็พากันโห่ร้องเยาะเย้ยทหารโจโฉว่า ขอบใจท่านสมุหนายกที่กรุณาให้ลูกเกาทัณฑ์แก่พวกเราเป็นอันมาก ทหารก็ไปรายงานให้โจโฉทราบเหตุกาณ์ โจโฉก็รีบวิ่งไปที่ริมตลิ่ง เห็นขบวนเรือของขงเบ้งไปไกลแล้วตามก็ไม่ทัน คิดน้อยใจเสียทีแก่ข้าศึกไม่รู้จะทําอย่างไร
 
ระหว่างทาง ขงเบ้งพูดกับโลซกว่า เราได้ลูกเกาทัณฑ์มาโดยประมาณ ลําละห้าพันดอก ไม่ต้องเสียทหารสักคนและไม่ต้องหาช่างทําลูกเกาทัณฑ์เหล่านี้ พรุ่งนี้มันจะวิ่งกลับไปหาหน้าอกทหารโจโฉต่อไป โลซกอดไม่ได้ที่จะสรรเสริญขงเบ้งว่า ท่านนี้เป็นผู้วิเศษจริงๆ รู้ล่วงหน้าว่าคืนนี้หมอกจะลงจัด จึงทําการได้สําเร็จอย่างน่าอัศจรรย์
 
หมอกลงจัดในช่วงดาว  ๑ ๔ ๗ เสียในช่วงนี้ ตั้งแต่ ๑๕ กุมภาพันธ์ หมอกจะลงทุกวัน ขงเบ้งรอช่วงพุธถอย พอดาวพุธถอยเข้าราศีมังกร หมอกจะลงจัดกว่าทุกครั้ง โลซกอัศจรรย์ใจมาก เพราะโลซกไม่ได้เรียนดูดวงดาวแบบขงเบ้ง ขงเบ้งทราบเพราะพุธพักร์หมอกลง ในสมัยก่อนใช้โหราศาสตร์แบบระบบศูนย์กลางของโลก เพราะเราต้องแหงนดูจากโลก เอาโลกเป็นศูนย์กลาง เมื่อดาวพุธเดินผ่านจากดวงอาทิตย์ ถ้าเรามองจากโลกไป พุธจะเดินถอยหลัง แต่พอวนรอบข้ามมาอ้อมหลังโลกเรา พอวนไปข้างหน้าจะมองเห็นว่าพุธเดินเร็วจะเป็นลักษณะแบบนี้ ช่วงที่พุธอ้อมช่วงนี้พุธเสีย เสาร์เสีย อาทิตย์เสีย เดือนกุมภาหมอกลงทุกปี 
 
ขงเบ้งบอกว่า อันผู้ที่เป็นหัวหน้านําทหาร ถ้าไม่รู้สิ้นดินฟ้า จะอาสาออกศึกได้อย่างไร ข้าพเจ้าคํานวณแล้วว่า น่าจะมีหมอกลงจัดในคืนนี้ จึงกล้ารับประกันได้ว่า จะหาลูกเกาทัณฑ์ให้ได้สิบหมื่นใน ๓ วัน จิวยี่ให้เวลาข้าพเจ้า ๑๐ วันแต่ไม่ให้ช่าง ไม่ให้เครื่องมือ หวังจะฆ่าข้าพเจ้าเสีย แต่เทพยดาช่วยข้าพจ้าไว้ จิวยี่จึงทําร้ายข้าพเจ้ามิได้ จริงๆ เป็นหลักของท้องฟ้า โลซกไม่รู้จะตอบอย่างไรก็นิ่งอยู่ ขงเบ้งจึงให้ขนลูกเกาทัณฑ์ลงจากเรือ นับได้กว่าสิบหมื่น มากกว่าที่พูดไว้อีก