ฮวงจุ้ยพื้นฐาน

 

การสังเกตสภาพแวดล้อมตามหลักพิชัยสงคราม ตอนที่ ๔
30 ก.ย. 2560

 

บ้านที่สร้างตรงหุบเขา สร้างใต้หน้าผา หรือปากทางทางน้ำไหลออก จะร้าย

อย่างบ้านที่จังหวัดเพชรบูรณ์ มีอยู่หลังหนึ่งปลูกบ้านคร่อมร่องน้ำ เพราะน้ำไม่เคยท่วม เลยคิดว่าไม่เป็นไร แต่ในปีนั้นน้ำท่วม มีน้ำป่า บ้านหลังนั้นพัง  เปรียบเทียบคำว่าร่องน้ำ หมายถึง ช่อง หรือ ร่อง ถ้าในเมืองก็เปรียบได้กับช่องระหว่างตึกสองตึก ก็เรียกว่าช่องลม อันนี้ต้องห้าม

 

บ้านที่มีทางเข้า 2 ทาง หน้าบ้านหลังบ้านเป็นถนน ควรปิดประตูหนึ่งด้าน แล้วใช้ประตูด้านเดียว และปลูกต้นไม้ใหญ่แทน เช่น ต้นชมพู่  ต้นจามจุรี  ต้นขนุน

 

บ้านที่สร้างสุดซอย ถ้าบ้านอยู่ซ้ายขวาไม่เป็นไร  แต่ถ้าไปสุดซอยตรงกับบ้าน ถือว่าไม่ดี  ถ้าประตูเป็นประตูทึบ หรือตัวบ้านเยื้องไปด้านข้างอันนี้ไม่เป็นไร จะแก้โดยการทำทางน้ำตก ปลูกต้นไม้ได้

 

ตัวอย่างบ้านหลังหนึ่ง เจ้าของบ้านเป็นโรคเลือด เลยเปรียบเทียบให้ทราบว่าปกติถนนใหญ่คือแม่น้ำ เลี้ยวเข้าซอยคือคลอง เลี้ยวอีกครั้งคือลำน้ำ แล้วมาสุดทางที่บ้านหลังนี้ คือสุดทางน้ำไหล น้ำที่มาสุดทางแล้วก็จะมีอยู่ 2 อย่าง คือเหือดแห้ง หรือเป็นน้ำเน่า แต่โชคดีตรงที่บ้านหลังนี้จะอยู่ค่อนไปทางขวา ทำให้มีพื้นที่เหลือกว้าง แก้โดยการปรับสนามหญ้าเป็นทางน้ำไหล ทำเป็นธารน้ำ จัดเป็นสวนไว้สำหรับเดินเล่น และประกอบกับการรักษาทางการแพทย์ ปัจจุบันนี้หายจากการเจ็บป่วย หลังจากทำสวนทำให้บ้านมีบริเวณ ทุกอย่างก็ไหลลงมาที่นี้หมดไม่ว่าจะเป็นความมั่งคั่ง ความร่ำรวย ทำอะไรก็ดีหมด ตอนนี้ได้ขยายมาปลูกบ้านใหม่แล้ว

 

มีต้นไม้ใหญ่อยู่ตรงหน้าประตูบ้าน ร้าย  เพราะเวลาเปิดประตูบ้านแล้วตัวของเราตรงกับต้นไม้ เหมือนตัวเรา เหมือนบ้าน เหมือนประตู ที่ถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ถ้าต้นไม้มีใบไม้ร่วงเราจะเป็นหลุมฝังศพ คนในบ้านจะเจ็บไข้ได้ป่วย เจออุบัติเหตุตลอด แต่ถ้าใบไม้ไม่ร่วงก็จะเป็นการขวางทาง ทางแก้ไข คือตรงประตู 2 ข้างให้ปลูกต้นไม้ใหญ่เป็นผู้พิทักษ์การ มีต้นไม้ใหญ่อยู่หน้าบ้านก็เปรียบเสมือนธูป 1 ดอก เหมือนโรงสี และเหมือนเมรุเผาศพ

 

ถ้ามีต้นไม้ใหญ่อยู่ด้านตะวันตกเฉียงเหนือของที่ดิน ถือว่าดี เป็นทิศสวรรค์ ทิศพ่อ เป็นแกน เป็นหลัก ถ้าดีก็คือดี แต่ถ้าที่ตรงนั้นพัง หรือถล่ม ถือว่าไม่ดี จะเกิดปัญหากับตัวพ่อบ้าน อาจจะป่วย ครอบครัวแตกแยก